บรรดาเมืองต่างๆในอังกฤษ คงไม่มีเมืองใดที่มีสะท้อนความเป็นอังกฤษได้โดดเด่นเท่ากับ “ลอนดอน” เมืองหลวงสุดคลาสสิคที่นักเดินทางทั่วโลกถวิลหา
ลอนดอน เป็นเมืองครบเครื่องทางการท่องเที่ยวที่มากไปด้วยสรรพสิ่งชวนชม ไม่ว่าจะเป็น ตึกรามบ้านเรือน พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ สะพาน อนุสาวรีย์ โบสถ์ โรงละคร โรงโอเปร่า สวนสาธารณะ แหล่งช้อปปิ้ง ผับ และอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ในลอนดอนยังมีย่านอันหลากหลายที่มีอัตลักษณ์ มีบรรยากาศเฉพาะตัวให้ชวนค้นหา ไม่ว่าจะเป็น ย่านเวสต์มินเตอร์ ที่โดดเด่นไปด้วยสถานราชการอย่างไวท์ฮอลล์และอาคารรัฐสภา ย่านเคนซิงตัน ที่มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ย่านเซลซี สำหรับหนุ่มสาวที่มีอารมณ์ศิลปิน ย่านโซโหอันเป็นย่านคนจีนในลอนดอน ย่านเวสต์เอนด์ ย่านแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิง เป็นต้น
ขณะที่ความเป็นลอนดอนอีกอย่างหนึ่งที่คนทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นก็คือ สถาปัตยกรรมแห่งลอนดอน ที่เป็นสถาปัตยกรรมดาวเด่นไฮไลท์ประจำเมืองผู้ดี เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองลอนดอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อ ซึ่งใครเมื่อไปเยือนลอนดอนต่างก็อยากไปชื่นชมและถ่ายรูปคู่กับเหล่าสถาปัตยกรรมดาวเด่นเหล่านั้นสักคนละ แชะ 2 แชะ หลายแชะ เป็นอัลบั้ม หรือจนเต็มเม็มโมรี่การ์ด
และนี่ก็เป็นสถาปัตยกรรมแห่งลอนดอน 5 แห่ง ที่ใครไปเยือนเมืองนี้ ไม่ควรพลาดการเที่ยวด้วยประการทั้งปวง
...หอนาฬิกาบิ๊กเบน
หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Bigben) เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ถูกสร้างหลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม ในวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 ด้วยสถาปัตยกรรมสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ที่มีนาย ชาลส์ แบร์รี เป็นผู้ออกแบบ
บิ๊กเบน มีความสูง 96.3 เมตร ตัวนาฬิกาอยู่สูงจากพื้น 55 เมตร ชื่อบิ๊กเบนหลายคนเข้าใจว่าเป็นชื่อหอนาฬิกา แต่จริงๆแล้วชื่อ บิ๊กเบน เป็นชื่อของระฆังใบใหญ่ที่สุดที่แขวนไว้บริเวณช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งมีน้ำหนักถึง 13,760 กิโลกรัม ระฆังบิ๊กเบนเป็น 1 ใน 5 ของระฆังที่หอแห่งนี้ โดยระฆัง 4 ใบ จะถูกตีเป็นทำนอง ส่วนบิ๊กเบนจะถูกตีบอกชั่วโมง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นชื่อบิ๊กเบนในการรับรู้และเรียกขานของคนทั่วไปล้วนหมายถึงตัวหอนาฬิกา(ทั้งหมด)อันสวยงามแห่งนี้
สำหรับชื่อเรียกขาน“บิ๊กเบน”นั้น มีหลายกระแส บ้างก็ว่ามาจากชื่อของ เบนจามิน ฮอลล์(Benjamin Hall) ผู้ควบคุมการหล่อระฆัง คนยุคนั้นจึงเรียกชื่อระฆังเป็นชื่อเล่นของเขา บ้างก็ว่ามาจากนาย เบนจามิน ฮอลล์ คนเดิม แต่หมอนี่เป็นผู้แทนราษฎรร่างอ้วน จนเพื่อนให้สมญานามว่า "BIGBEN" และนำชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อนาฬิกา ขณะที่อีกกระแสหนึ่งว่า บิ๊กเบน อาจจะมาจากชื่อของเบนจามิน เคานต์(Benjamin Caunt) นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวตคนหนึ่ง
ไม่ว่าชื่อบิ๊กเบนจะมีที่มาอย่างไร หอนาฬิกาบิ๊กเบน นับจากอดีตถึงปัจจุบัน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งลอนดอนและสัญลักษณ์ของอังกฤษที่คนรู้จักไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาลอนดอนมักจะไม่พลาดการมายลโฉมความงามและถ่ายรูปคู่กับหอนาฬิกาแห่งนี้
...อาคารรัฐสภา
อาคารรัฐสภา(House of Parliament) ถือเป็นสถาปัตยกรรมคลาสสิคประจำกรุงลอนดอนเคียงคู่กับหอนาฬิกาบิ๊กเบน อาคารหลังนี้ตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำเทมส์ มีหอนาฬิกาบิ๊กเบนอยู่ด้านขวา
อาคารรัฐสภาในอดีตคือพระราชวังมินสเตอร์ ที่มีประวัติอันยาวนาน ในยุคกษัตริย์ Canute II จนถึง Henry VII พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เป็นอาคารที่พักอาศัยของชนชั้นปกครองและข้าราชสำนัก
ครั้นมาในยุครัฐบาลมีอำนาจการปกครองมากกว่าพระมหากษัตริย์ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่ตั้งของสภาสูงและสภาล่าง
ปี ค.ศ.1834 เกิดไฟไหม้ใหญ่ พระราชวังแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหญ่ เป็นอาคารแบบโกธิคอันงดงามอลังการ ครอบคลุมบนพื้นที่ 8 เอเคอร์ มีห้องมากกว่า 1,100 ห้อง และมีเฉลียงยาว 2 ไมล์ โดยมีอาคารห้องโถงรัฐสภา เป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงรูปแบบเดิมของพระราชวังเอาไว้
บริเวณพระราชวัง ยังมีสิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ โบสถ์ เวสมินสเตอร์ โบสถ์อันสวยงามตามสไตล์โกธิคแบบอังกฤษ ใช้เป็นสถานที่จัดงานราชาภิเษกและพิธีศพ ด้านในของพระราชวัง จะบรรจุหลุมฝั่งศพของผู้มีชื่อเสียงกว่า 3000 คน ซึ่งโบสถ์แห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น หลังจากที่ได้จัดพิธีศพของเจ้าหญิงไดอาน่า
...พระราชวังบัคกิ้งแฮม
พระราชวังบัคกิ้งแฮม(Buckingham Palace) สร้างขึ้นในสมัยต้นทศวรรษที่ 18 เพื่อเป็นตำหนักของดยุกแห่งบัคกิ้งแฮม(Duke of Buckingham) แต่ผู้ที่เข้าพำนักอย่างเป็นทางการคือ เจ้าหญิงวิคตอเรีย ผู้ซึ่งขึ้นครองราชย์เป็นราชินีในปี ค.ศ. 1837 และตั้งแต่นั้นพระราชวังแห่งนี้จึงเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในกรุงลอนดอนเป็นต้นมา
พระราชวังบัคกิ้งแฮม เป็นพระราชวังสำคัญของอังกฤษที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ภายในพระราชวังจะมีส่วนต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ ห้องแกลลอรี่ ห้องบังลังก์ของกษัตริย์ ห้องเสวยพระกระยาหาร ซึ่งห้องต่างๆ เหล่านี้ ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามและอลังการ
นอกจากนี้ ภายในพระราชวังยังมีสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี เหมาะแก่การเดินชมวิวเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญพระราชวังแห่งนี้มีสิ่งชวนชมที่นักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอและเป็นแม่แบบไปทั่วโลกนั่นก็คือ การผลัดเปลี่ยนเวร(Changing the Guard) การผลัดเปลี่ยนเวรจะมีขึ้นที่บริเวณพระราชวัง โดยจะผลัดเปลี่ยนเวลา 11.30 น. และจะใช้เวลาแสดงทั้งหมด 40 นาที แต่ทั้งนี้ในวันที่มีเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองหรือวันฝนตกหนักการผลัดเปลี่ยนเวรอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหรืองดได้
...สะพานทาวเวอร์
สะพานทาวเวอร์ (Tower Bridge)สร้างขึ้นในปี 1894 เพื่อการสัญจรข้ามแม่น้ำเทมส์ ลักษณะสะพานโดดเด่นฐานสะพาน 2 ฟากฝั่งน้ำที่สร้างเป็นหอสูง 2 หอ ที่ระดับความสูง 66 เมตร ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของลอนดอน
สะพานทาวเวอร์ ตั้งอยู่ข้างหอคอยลอนดอน สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์วิกตอเรียนโกธิกใช้เวลาสร้าง 8 ปี เป็นสะพานแบบเปิด-ปิด ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดิมทีสะพานทาวเวอร์ใช้พลังไอน้ำเป็นพลังงานขับดันปั๊มเพื่อให้ไฮดรอลิกยกเปิด-ปิดได้ จนมาในปี ค.ศ.1976 สะพานทาวเวอร์ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากน้ำมันและไฟฟ้าในการเปิด-ปิดแทนไอน้ำ
สะพานแห่งนี้ปัจจุบัน จัดทำทางเชื่อมต่อระหว่างหอคอยเป็นพิพิธภัณฑ์ และสถานที่จัดนิทรรศการ เกี่ยวกับประเทศอังกฤษ รวมถึงจัดแสดงห้องอบไอน้ำสมัยวิกตอเรียน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมเรื่องราวความเป็นมาภายใน พร้อมชมวิวทั้งเห็นทัศนียภาพลอนดอนอย่างชัดเจน
…ลอนดอน อาย
ลอนดอน อาย(London Eye) หรือชื่อเต็ม British Airways London Eye (เนื่องจากสายการบิน British Airways เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณการสร้าง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ สร้างขึ้นเพื่อต้อนรับปี ค.ศ.2000
ลอนดอน อาย เป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่และสัญลักษณ์ใหม่แห่งลอนดอน มีลักษณะคล้ายชิงช้าสวรรค์ยักษ์ มีลักษณะคล้ายชิงช้าสวรรค์บ้านเรา แต่เป็นแคปซูลลูกใหญ่โปร่งใส มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจน และสามารถจุคนได้ประมาณ 15 คน เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปในแคปซูล มันก็จะค่อยๆเคลื่อนที่ขึ้นไปช้าๆเป็นวงกลมไปยังจุดสูงสุดประมาณ 135 เมตรจากพื้นดิน แล้วหมุนกลับมายังที่เดิมเป็นวงรอบประมาณ 30 นาที โดยผู้สนใจต้องเสียค่าขึ้นชม ผู้ใหญ่ 12.5 ปอนด์ เด็ก 6.5 ปอนด์ ซึ่งสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเข้าคิวซื้อ ณ ที่ตั้งลอนดอน อาย เลยก็ได้
ปัจจุบัน ลอนดอน อาย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมทัศนียภาพรอบๆ กรุงลอนดอนได้กว้างไกล รอบทิศ โดยจุดชวนชมเด่นๆ ก็มี อาคารรัฐสภา หอนาฬิกาบิกเบน แม่น้ำเทมส์ เวสมินสเตอร์ สะพานวอเตอร์ลู และ สถานีรถไฟวอเตอร์ลู
............................
สำหรับสถาปัตยกรรมดาวเด่น 5 แห่งทั้งเก่า-ใหม่ ถือเป็นดังสัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่งลอนดอน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของเมืองนี้ที่ขึ้นชื่อลือชาไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากสัญลักษณ์แห่งลอนดอน 5 แห่งแล้ว เมืองนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจชวนชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ค หอคอยลอนดอน พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษ ย่านโซโห ห้างแฮร์ร็อดส์ ตลาดดอกไม้โคเวนท์การ์เดน มหาวิหารเซนต์ปอล ฯลฯ ซึ่งนั่นล้วนต่างเป็นเสน่ห์แห่งลอนดอน มหานครที่ยังคงความคลาสสิค ความน่าหลงใหลอยู่ไม่สร่างซา