โดย : หมวยเกี๊ยะ
หากคุณมีเวลาแค่ครึ่งวันในการที่จะออกเดินทางเที่ยวให้ทั่วยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศที่คุณเลือกไปเที่ยว คุณคิดว่าจะทำได้ไหม??
ถ้าใครคิดว่าทำยังไง ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะว่าจะมีที่เที่ยวที่ไหนในโลก ที่จะสามารถให้เราใช้เวลาอันน้อยนิด แต่กลับจะเที่ยวได้ทั่วประเทศ คงจะไม่มีอยู่จริง!! อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเด็ดขาดขนาดนั้น เพราะว่าฉันกำลังจะพาคุณไปเที่ยวให้ทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งกังหันลม รองเท้าไม้ และทุ่งดอกทิวลิป ได้ในเวลาระยะเวลาอันสั้น แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเที่ยวไปได้ทั่วยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายในเนเธอร์แลนด์
ถ้ายังไม่เชื่อก็ต้องตามมากันเลย เพราะเพียงแค่คุณมาเที่ยวที่ เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" (The miniature city of Madurodam) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเฮก เพียงมาที่นี่ที่เดียวก็จะได้เที่ยวทั่วเนเธอร์แลนด์เลยจริงๆ เพราะที่นี่เป็นเหมือนเมืองเนเธอร์แลนด์จำลองที่เล็กที่สุด แต่กลับมีสิ่งที่น่าสนใจ และน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวเมืองจำลองมาดูโรดัมกัน มาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเมืองนี้กันสักหน่อย เพราะว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจเอามากๆ โดยเมืองมาดูโรดัมแห่งนี้ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ปีค.ศ. 1952 ซึ่งที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาก็ด้วย เหตุผล 2 ประการด้วยกัน คือ เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของสงคราม และเพื่อตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล โดยมีผู้ริเริ่มคือ Mrs. B. Boon-van der Starp ผู้ที่ต้องการหาเงินเข้ากองทุนการกุศลที่เขาได้ช่วยเหลืออยู่
และอีกหนึ่งผู้ร่วมริเริ่มสร้างด้วยก็คือ Mr. and Mrs. J.M.L. Maduro ซึ่ง 2 คนนี้มีความต้องการที่จะสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติ และระลึกถึงลูกชายคนเดียวของที่ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคร้ายในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเมื่อทั้ง 2 คนได้มาเจอกับ Mrs. B. Boon-van der Starp พวกเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะบริจาคเงินสำหรับสร้างเมืองจำลองขึ้นมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ลูกชายของพวกเขาแทนการสร้างอนุสาวรีย์ ทำให้เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" เกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเนเธอร์แลนด์ดังเช่นทุกวันนี้
เมื่อรู้ประวัติกันพอสมควรแล้ว ฉันจะขอพาทุกคนก้าวเข้าสู่เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" กันเลย โดยเมื่อมาถึงยังด้านหน้าเมืองจำลองก็จะได้เห็นทางเข้าเมืองที่มีลักษณะเป็นเนินสีเขียวเหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำ 2 เขื่อน มีประภาคารหลังใหญ่ และมีอาคารที่ออกแบบให้มีหลังคาโค้งเว้าเหมือนรูปคลื่น ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะภูมิประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และที่ด้านหน้าทางเข้านี้ยังมีจุดที่น่าสนใจสะดุดตา ก็ตรงที่ด้านหนึ่งของกำแพงรูปเขื่อนสีเขียว จะมีเด็กคนหนึ่งกำลังใช้นิ้วของตัวเองอุดรอยรั่วอยู่เพื่อไม่ให้น้ำทะเลไหลทะลักลอดรูรั่วนั้นเข้ามาทำลายประเทศอันเป็นที่รักของตน ซึ่งเด็กน้อยผู้นี้ได้ใช้นิ้วอุดรอยรั่วอยู่ตรงเขื่อนไม่ยอมไปไหน จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตลงและมีผู้มาพบเห็นและซ่อมแซมเขื่อนจนปลอดภัย จึงทำให้เด็กคนนี้กลายเป็นผู้กล้า ที่เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนทั้งประเทศให้ปลอดภัยจากมหันตภัยนี้
พอเดินเข้าไปยังเมืองจำลองมาดูโรดัมด้านใน ด้วยพื้นที่กว่า 2 ไร่ครึ่ง ก็จะได้ตะลึงกับภาพของเหล่าอาคาร ตึกรามบ้านช่อง ลำคลอง และสถานที่สำคัญๆ ของเนเธอร์แลนด์ที่ถูกจำลองไว้อย่างละลานตา เป็นสัดส่วน สวยงาม ดูสมจริงสมจังเอามากๆ ซึ่งบรรดาของจำลองเหล่านี้ถูกย่อส่วนลงมาในขนาด 1 : 25 โดยเป็นการออกแบบของสถาปนิก ชื่อ S.J. Bouma ซึ่งเขาได้มีส่วนช่วยสร้างเมืองจำลองมาดูโรดัมแห่งนี้ขึ้นมา ภายใต้แนวคิดที่ว่า "เมืองเล็กในรอยยิ้ม"
ถึงแม้ว่ามาดูโรดัม จะเป็นเมืองที่เล็กที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และเป็นเพียงเมืองจำลองเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่ามาดูโรดัมแห่งนี้นั้นมีนายกเทศมนตรีประจำเมืองด้วย ซึ่งนายกเทศมนตรีท่านนั้นก็คือ สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ พระองค์ทรงได้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมืองมาดูโรดัม เพื่อครั้งที่พระองค์ได้เสด็จมาที่นี่เมื่อครั้งมีพระชนมายุเพียง 14 ชันษา เท่านั้น
ความโดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เข้ามาเที่ยวในเมืองจำลองมาดูโรดัม ก็คือว่านักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามายังเมืองจำลองจะเหมือนราวกับว่าเป็นมนุษย์ตัวโต หรือว่ายักษ์ที่ได้มาเดินเที่ยวทั่วอยู่ในเมืองเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เห็นบรรดาอาคาร โบสถ์ ปราสาท วิหาร จตุรัส และสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวดัตช์ที่มีเอกลักษณ์อันงดงาม และยังมีการจำลองให้เห็นถึงวิถีชีวิต ประเพณี งานเทศกาลต่างๆ ของชาวเนเธอร์แลนด์ ผ่านหุ่นจำลองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ รถ เรือ รถไฟ และต้นไม้เล็กๆ ที่ดูแล้วเหมือนมีชีวิตชีวาจริงๆ
นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่สำคัญแต่ละแห่งของเนเธอร์แลนด์ที่ต่างถูกจำลองไว้ได้สัดส่วนอย่างสวยงาม ดูราวกับของจริง ไม่ว่าจะเป็น กังหันที่ไลเคน สถานีรถไฟเมืองกรอนิงเกน ทาวน์ฮอลล์ที่เกาดา อาคารรัฐสภาของกรุงเฮก ตลาดชีสที่อัลก์มาร์ คลองอัมสเตอร์ดัม สนามบินนานาชาติสคิปโปลแห่งเมืองอัมสเตอร์ดัม และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่จำลองไว้ได้อย่างสวยงามและเสมือนจริงมากๆ และหากได้ใช้เวลาเดินเที่ยวอยู่ที่มาดูโรดัมถึงเย็นย่ำ ก็จะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งบรรยากาศของเมืองจำลองในยามค่ำคืน ที่สวยพราวไปด้วยแสงไฟเล็กๆ นับพันดวงที่ถูกเปิดขึ้น สร้างบรรยากาศให้เมืองมาดูโรดัมงดงามราวกับเมืองแห่งเทพนิยาย และที่สำคัญยังมีไฮไลท์พิเศษด้วย คือมีการการแสดงผ่านแสง สี น้ำ และเลเซอร์ เป็นเรื่องราวที่ดูแล้วสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้มาชมเป็นอย่างมาก
เห็นหรือยังว่าหากใครคิดว่าการมีเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วจะไม่สามารถเที่ยวได้ทั่วทั้งประเทศนั้นไม่มี เพราะหากลองได้มีโอกาสเที่ยวที่เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" แห่งนี้ ก็เหมือนราวกับได้เที่ยวได้ทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยใช้เวลาในการเดินทางเที่ยวเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" (The miniature city of Madurodam) ตั้งอยู่ที่กรุงเฮกทางที่จะไปชายหาดScheveningen ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีรถรางไฟฟ้า หรือ tram สาย 9 วิ่งผ่าน ถ้าเป็นรถเมล์ก็ต้องเป็นสาย 22 แล้วลงรถที่ป้าย Madurodam ได้เลย มาดูโรดัมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
หากคุณมีเวลาแค่ครึ่งวันในการที่จะออกเดินทางเที่ยวให้ทั่วยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศที่คุณเลือกไปเที่ยว คุณคิดว่าจะทำได้ไหม??
ถ้าใครคิดว่าทำยังไง ก็คงจะทำไม่ได้ เพราะว่าจะมีที่เที่ยวที่ไหนในโลก ที่จะสามารถให้เราใช้เวลาอันน้อยนิด แต่กลับจะเที่ยวได้ทั่วประเทศ คงจะไม่มีอยู่จริง!! อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจเด็ดขาดขนาดนั้น เพราะว่าฉันกำลังจะพาคุณไปเที่ยวให้ทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งกังหันลม รองเท้าไม้ และทุ่งดอกทิวลิป ได้ในเวลาระยะเวลาอันสั้น แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเที่ยวไปได้ทั่วยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายในเนเธอร์แลนด์
ถ้ายังไม่เชื่อก็ต้องตามมากันเลย เพราะเพียงแค่คุณมาเที่ยวที่ เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" (The miniature city of Madurodam) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเฮก เพียงมาที่นี่ที่เดียวก็จะได้เที่ยวทั่วเนเธอร์แลนด์เลยจริงๆ เพราะที่นี่เป็นเหมือนเมืองเนเธอร์แลนด์จำลองที่เล็กที่สุด แต่กลับมีสิ่งที่น่าสนใจ และน่าเที่ยวเป็นอย่างมาก
แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวเมืองจำลองมาดูโรดัมกัน มาทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของเมืองนี้กันสักหน่อย เพราะว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจเอามากๆ โดยเมืองมาดูโรดัมแห่งนี้ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ปีค.ศ. 1952 ซึ่งที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาก็ด้วย เหตุผล 2 ประการด้วยกัน คือ เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของสงคราม และเพื่อตั้งเป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล โดยมีผู้ริเริ่มคือ Mrs. B. Boon-van der Starp ผู้ที่ต้องการหาเงินเข้ากองทุนการกุศลที่เขาได้ช่วยเหลืออยู่
และอีกหนึ่งผู้ร่วมริเริ่มสร้างด้วยก็คือ Mr. and Mrs. J.M.L. Maduro ซึ่ง 2 คนนี้มีความต้องการที่จะสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติ และระลึกถึงลูกชายคนเดียวของที่ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคร้ายในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเมื่อทั้ง 2 คนได้มาเจอกับ Mrs. B. Boon-van der Starp พวกเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะบริจาคเงินสำหรับสร้างเมืองจำลองขึ้นมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ลูกชายของพวกเขาแทนการสร้างอนุสาวรีย์ ทำให้เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" เกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเนเธอร์แลนด์ดังเช่นทุกวันนี้
เมื่อรู้ประวัติกันพอสมควรแล้ว ฉันจะขอพาทุกคนก้าวเข้าสู่เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" กันเลย โดยเมื่อมาถึงยังด้านหน้าเมืองจำลองก็จะได้เห็นทางเข้าเมืองที่มีลักษณะเป็นเนินสีเขียวเหมือนกับเขื่อนกั้นน้ำ 2 เขื่อน มีประภาคารหลังใหญ่ และมีอาคารที่ออกแบบให้มีหลังคาโค้งเว้าเหมือนรูปคลื่น ที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะภูมิประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และที่ด้านหน้าทางเข้านี้ยังมีจุดที่น่าสนใจสะดุดตา ก็ตรงที่ด้านหนึ่งของกำแพงรูปเขื่อนสีเขียว จะมีเด็กคนหนึ่งกำลังใช้นิ้วของตัวเองอุดรอยรั่วอยู่เพื่อไม่ให้น้ำทะเลไหลทะลักลอดรูรั่วนั้นเข้ามาทำลายประเทศอันเป็นที่รักของตน ซึ่งเด็กน้อยผู้นี้ได้ใช้นิ้วอุดรอยรั่วอยู่ตรงเขื่อนไม่ยอมไปไหน จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตลงและมีผู้มาพบเห็นและซ่อมแซมเขื่อนจนปลอดภัย จึงทำให้เด็กคนนี้กลายเป็นผู้กล้า ที่เสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนทั้งประเทศให้ปลอดภัยจากมหันตภัยนี้
พอเดินเข้าไปยังเมืองจำลองมาดูโรดัมด้านใน ด้วยพื้นที่กว่า 2 ไร่ครึ่ง ก็จะได้ตะลึงกับภาพของเหล่าอาคาร ตึกรามบ้านช่อง ลำคลอง และสถานที่สำคัญๆ ของเนเธอร์แลนด์ที่ถูกจำลองไว้อย่างละลานตา เป็นสัดส่วน สวยงาม ดูสมจริงสมจังเอามากๆ ซึ่งบรรดาของจำลองเหล่านี้ถูกย่อส่วนลงมาในขนาด 1 : 25 โดยเป็นการออกแบบของสถาปนิก ชื่อ S.J. Bouma ซึ่งเขาได้มีส่วนช่วยสร้างเมืองจำลองมาดูโรดัมแห่งนี้ขึ้นมา ภายใต้แนวคิดที่ว่า "เมืองเล็กในรอยยิ้ม"
ถึงแม้ว่ามาดูโรดัม จะเป็นเมืองที่เล็กที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และเป็นเพียงเมืองจำลองเท่านั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่ามาดูโรดัมแห่งนี้นั้นมีนายกเทศมนตรีประจำเมืองด้วย ซึ่งนายกเทศมนตรีท่านนั้นก็คือ สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ พระองค์ทรงได้เป็นนายกเทศมนตรีประจำเมืองมาดูโรดัม เพื่อครั้งที่พระองค์ได้เสด็จมาที่นี่เมื่อครั้งมีพระชนมายุเพียง 14 ชันษา เท่านั้น
ความโดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เข้ามาเที่ยวในเมืองจำลองมาดูโรดัม ก็คือว่านักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามายังเมืองจำลองจะเหมือนราวกับว่าเป็นมนุษย์ตัวโต หรือว่ายักษ์ที่ได้มาเดินเที่ยวทั่วอยู่ในเมืองเนเธอร์แลนด์ ซึ่งไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็จะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้เห็นบรรดาอาคาร โบสถ์ ปราสาท วิหาร จตุรัส และสภาพบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวดัตช์ที่มีเอกลักษณ์อันงดงาม และยังมีการจำลองให้เห็นถึงวิถีชีวิต ประเพณี งานเทศกาลต่างๆ ของชาวเนเธอร์แลนด์ ผ่านหุ่นจำลองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ รถ เรือ รถไฟ และต้นไม้เล็กๆ ที่ดูแล้วเหมือนมีชีวิตชีวาจริงๆ
นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่สำคัญแต่ละแห่งของเนเธอร์แลนด์ที่ต่างถูกจำลองไว้ได้สัดส่วนอย่างสวยงาม ดูราวกับของจริง ไม่ว่าจะเป็น กังหันที่ไลเคน สถานีรถไฟเมืองกรอนิงเกน ทาวน์ฮอลล์ที่เกาดา อาคารรัฐสภาของกรุงเฮก ตลาดชีสที่อัลก์มาร์ คลองอัมสเตอร์ดัม สนามบินนานาชาติสคิปโปลแห่งเมืองอัมสเตอร์ดัม และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่จำลองไว้ได้อย่างสวยงามและเสมือนจริงมากๆ และหากได้ใช้เวลาเดินเที่ยวอยู่ที่มาดูโรดัมถึงเย็นย่ำ ก็จะได้สัมผัสกับอีกหนึ่งบรรยากาศของเมืองจำลองในยามค่ำคืน ที่สวยพราวไปด้วยแสงไฟเล็กๆ นับพันดวงที่ถูกเปิดขึ้น สร้างบรรยากาศให้เมืองมาดูโรดัมงดงามราวกับเมืองแห่งเทพนิยาย และที่สำคัญยังมีไฮไลท์พิเศษด้วย คือมีการการแสดงผ่านแสง สี น้ำ และเลเซอร์ เป็นเรื่องราวที่ดูแล้วสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้มาชมเป็นอย่างมาก
เห็นหรือยังว่าหากใครคิดว่าการมีเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วจะไม่สามารถเที่ยวได้ทั่วทั้งประเทศนั้นไม่มี เพราะหากลองได้มีโอกาสเที่ยวที่เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" แห่งนี้ ก็เหมือนราวกับได้เที่ยวได้ทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยใช้เวลาในการเดินทางเที่ยวเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เมืองจำลอง "มาดูโรดัม" (The miniature city of Madurodam) ตั้งอยู่ที่กรุงเฮกทางที่จะไปชายหาดScheveningen ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีรถรางไฟฟ้า หรือ tram สาย 9 วิ่งผ่าน ถ้าเป็นรถเมล์ก็ต้องเป็นสาย 22 แล้วลงรถที่ป้าย Madurodam ได้เลย มาดูโรดัมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี