เชิญร่วมเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรีครั้งที่ 14 ประจำปี 2551 สัมผัสความยิ่งใหญ่สุดอลังการ ภายใต้แนวคิด สิงห์บุรี วิถีน้ำ วิถีชีวิต วิถีไทย ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2551 - วันที่ 1 มกราคม 2552 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี
วิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยถึงงานเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี ว่า สำหรับงานเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรีนั้น ได้จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งครั้งนี้เป็นปีที่ 14 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากปลา รวมถึงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มรายได้แก่ประชาชน
โดยงานในครั้งนี้จะมีการแสดงภายใต้แนวคิด สิงห์บุรี วิถีน้ำ วิถีชีวิต วิถีไทย โดยแบ่งการแสดงเป็น 4 องค์ ได้แก่ ทวาราวดี เมืองโบราณ, สืบสานตำนานวีรชน, ยินยลแห่งวัฒนธรรม(หนังใหญ่วัดสว่างอารมณ์), และวิถีน้ำ วิถีชีวิต วิถีไทย ที่สอดคล้องกับความเป็นมาของจังหวัดสิงห์บุรี
ร่วมชมการจุดพลุตะไล ไฟพะเนียงที่สวยงามสุดตระการตา ชมการประกวดหุ่นปลาสวยงาม แข่งขันคู่รักสามขาจับปลาช่อน ชมนิทรรศการปลาน้ำจืด และปลาทะเล อาทิ ปลาเผือกบึก ปลาตระกูปลาช่อน ประกอบด้วย ปลาข่อนก้าง ปลาชะโด ปลาช่อนงูเห่า การจำหน่ายพันธุ์ปลาสวยงามต่างๆ การออกร้านในส่วนราชการของจังหวัดสิงห์บุรี
พร้อมชิมอาหารไทย “แม่ครัวหัวป่า” อาหารนานาชนิดจากปลา ชมการแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลป์ลพบุรี วิทยาลัยอ่างทอง ชมภาพยนตร์และการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง อาทิ แคลช บ่าววี เล้าโลม อ๊อฟ ปองศักดิ์ ฯลฯ การแข่งขันมหกรรมมวยโลก งานออกร้านของเหล่ากาชาดจังหวัด และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
วัฒนพงษ์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี กล่าวถึงงานเทศกาลกินปลาจังหวัดสิงห์บุรี ปี 2551 ว่า เพื่อเผยแพร่ความโดดเด่น ของเทศกาลกินปลาจังหวัดสิงห์บุรี และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบทั่วกันว่า สิงห์บุรีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านรสชาติของเมนูปลา โดยเฉพาะ “ปลาช่อนแม่ลา” ซึ่งเป็นอาหารจานเด็ดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสิงห์บุรี นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นกำเนิดของตำนานอาหารคาว- หวานที่มีชื่อเสียงในอดีตด้วย และขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมงานเทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี
ด้าน ไทศิกา ไพรสลง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า เหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรีจัดกิจกรรมออกร้านมัจฉากาชาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ไว้ใช้ในกิจกรรมบรรเทาทุกข์ แก่ผู้ประสบภัย ผู้ด้อยโอกาส ร่วมทั้งราษฎรที่ยากจน
ซึ่งจะมี 2 กิจกรรมหลักคือการจำหน่ายสลากกาชาด และกิจกรรมตักไข่มัจฉา ซึ่งจะคืนกำไรแก่ผู้ร่วมงาน โดยมีสโลแกนว่า “เงินร้อยแลกเงินล้าน” ซึ่งมีรางวัลใหญ่หลายรางวัล อาทิ รถฟอร์จูนเนอร์ รถปิคอัพ เป็นต้น