หลายคนคงเคยประทับใจกับ FINDING NEMO ปลาเล็กหัวใจโต๊โต ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชันที่กวาดรายได้ไปถล่มทลายเมื่อหลายปีที่ผ่านมา และก็หลายคนอีกเช่นกันที่รู้สึกชื่นชอบกับความน่ารักของเจ้าปลาการ์ตูน “นีโม” ที่อยู่ในเรื่องจนอยากหามาไว้ในครอบครอง
ปัจจุบันปลาสวยงามเหล่านี้ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายปลาทั่วไป เนื่องจาก “ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร” สามารถเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนได้เป็นผลสำเร็จในหลากหลายสายพันธ์ รวมทั้งปลาสลิดหินที่สามารถเพาะพันธุ์ได้เป็นแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
“พรทิพย์ ทองบ่อ” เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร ให้ข้อมูลว่า ที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้มีการเพาะพันธุ์ปลาสวยงามทะเลหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาการ์ตูน ซึ่งมีประมาณ 13 ชนิด ได้แก่ ปลาการ์ตูนส้มขาว หรือที่ส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของปลานีโม และยังถือเป็นปลาการ์ตูนที่คนนิยมเลี้ยงกันมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมี ปลาการ์ตูนเพอร์คูล่า ปลาการ์ตูนดำ ปลาการ์ตูนอานม้าทอง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ฯลฯ
“ปลาการ์ตูนในแต่ละสายพันธุ์สามารถเลี้ยงรวมกันได้ ยกเว้น ปลาการ์ตูนอานม้าทองและปลาการ์ตูนมะเขือเทศที่มีใจรักเป็นนักเลงเลยอยู่รวมกับใครไม่ได้นอกจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน”
พรทิพย์ให้ความรู้ด้วยว่า ในการผสมพันธุ์ปลานั้น ศูนย์วิจัยฯ นิยมให้ปลามีคู่เป็นของตัวเองไม่ต้องแย่งกับใคร โดยจัดสรรบ่อพร้อมปะการังให้อยู่คู่กันตราบนานเท่านาน ซึ่งปลาการ์ตูนจะพร้อมผสมพันธุ์เมื่อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์อายุได้ 5-6 ปี แต่ปลาการ์ตูนส้มขาวหรือนีโมจะให้ไข่เร็วที่สุด คือ อายุ 2 ปี
ทั้งนี้ ปลาการ์ตูนจะเริ่มให้ไข่ในวันแรกที่ผสมพันธุ์และตั้งตารออีกประมาณ 7-8 วัน ลูกปลาตัวน้อยๆ ก็จะทยอยกันออกมาจากไข่ ซึ่งระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่ก็จะนำสวิงมาช้อนลูกปลาเพื่อแยกออกไปบ่ออนุบาลที่จัดเตรียมไว้ แต่ก็ใช่ว่าไข่ของปลาการ์ตูนจะฟักตรงต่อเวลาทุกครั้งเพราะหากเมื่อไหร่ที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเมื่อนั้นลูกปลาที่อยู่ในไข่ก็จะฟักเป็นตัวช้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะคอยสังเกตการณ์กันต่อไป
พรทิพย์ เล่าด้วยว่า อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของศูนย์ประมงสมุทรสาครแห่งนี้ คือ การเพาะพันธุ์ปลาสวยงามกลุ่มปลาสลิดหินได้เป็นผลสำเร็จแห่งแรกในประเทศไทย 3 ชนิด คือ ปลาสลิดนีออนหรือบลูเวลเวท ปลาสลิดหินชนิดปลาเปลี่ยนสีหางขาวและปลาสลิดหินชนิดเปลี่ยนสีหางเหลืองที่ใช้เวลากว่า 4 ปีจึงสำเร็จเป็นตัวตนออกมาประดับบ่ออีกหนึ่งสายพันธุ์
ปลากลุ่มนี้จะมีสีสันสวยงามโดยเฉพาะปลาสลิดหินนีออน ซึ่งตอนที่มีอายุประมาณ 1-6 เดือน ลูกปลาจะมีสีฟ้าอร่ามทั้งตัว พร้อมเพิ่มไฮไลต์ด้วยสีเหลืองตรงกลางลำตัว ซึ่งเมื่อปลาอยู่รวมกันก็สามารถทำให้บ่อสว่างได้ไม่ต้องอาศัยไฟนีออน
“ปลาสลิดหินนีออนพอโตขึ้นสักประมาณ 7-8 เดือน สีตัวจะกลายเป็นสีดำ ซึ่งจะไม่ค่อยสวย แล้วเวลามันตกใจ อย่างคนเอานิ้วไปจุ่มในบ่อมันก็จะเปลี่ยนสีถือเป็นคุณสมบัติพิเศษในตัวมันเลยก็ว่าได้”
พรทิพย์ บอกด้วยว่า ปัจจุบันตลาดปลาสวยงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังนั้น ทางศูนย์ประมงชายฝั่งสมุทรสาครซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชิงพาณิชย์จึงจัดให้มีการอบรมความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาสวยงาม อาทิ การอนุบาลลูกปลา การดูแลปลาการ์ตูนและการเตรียมบ่อเพื่อเพาะเลี้ยงปลาการ์ตูน
ส่วนวิธีการเตรียมบ่อ หรือตู้ปลา เพื่อเลี้ยงปลาการ์ตูนนั้น พรทิพย์ บอกว่า ไม่ยากเลยเพียงแค่หาซื้อน้ำทะเลเทียมตามร้ายขายอุปกรณ์การเลี้ยงปลา เนื้อกุ้งสด เมื่อได้ครบแล้วก็นำน้ำทะเลเทียมใส่ลงไปในบ่อหรือตู้ปลา ตามด้วยเนื้อกุ้งสดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 6-7 วัน เนื้อกุ้งสดจะเป็นตัวสร้างแบคทีเรียที่ช่วยกำจัดของเสียในช่วงที่เลี้ยงให้เหมือนกับน้ำทะเล หลังจากนั้นก็นำปลาการ์ตูนมาปล่อยก็เป็นอันเสร็จพิธี
“อาหารที่ให้ปลาการ์ตูนกินก็จะมีไรทะเล เนื้อกุ้ง อาหารเม็ด นอกเหนือไปกว่านั้นคือที่นี่จะเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนขายด้วย ราคาก็จะแล้วแต่ขนาดและชนิดของปลา อย่างปลานีโมจะเซนติเมตรละ 7 บาท ปลาการ์ตูนขาวดำจะอยู่ที่นิ้วละ 500 บาท ซึ่งราคาจะขายตามที่กรมประมงกำหนด” พรทิพย์ อธิบาย
สำหรับใครที่ต้องการไปยลโฉมปลาทะเลสวยงามเหล่านี้ สามารถเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ทุกวัน ในเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3485-7138, 0-3442-6220
หรือไม่ก็ไปเที่ยวงาน “สมุทรสาคร เอ็กซ์โป 2008” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9-14 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งศูนย์ประมงชายฝั่งสมุทรสาครก็จะนำพันธุ์ปลาการ์ตูนสายพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมโชว์ความสวยงามกว่า 23 ชนิด พร้อมด้วยปลาสลิดหิน 3 สายพันธุ์ พร้อมทั้งจะมีการจำลองบ่อเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนมาให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ธรรมชาติของเจ้าปลานีโมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ปัจจุบันปลาสวยงามเหล่านี้ สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายปลาทั่วไป เนื่องจาก “ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร” สามารถเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนได้เป็นผลสำเร็จในหลากหลายสายพันธ์ รวมทั้งปลาสลิดหินที่สามารถเพาะพันธุ์ได้เป็นแห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
“พรทิพย์ ทองบ่อ” เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร ให้ข้อมูลว่า ที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้มีการเพาะพันธุ์ปลาสวยงามทะเลหลายสายพันธุ์ เช่น ปลาการ์ตูน ซึ่งมีประมาณ 13 ชนิด ได้แก่ ปลาการ์ตูนส้มขาว หรือที่ส่วนใหญ่รู้จักกันในนามของปลานีโม และยังถือเป็นปลาการ์ตูนที่คนนิยมเลี้ยงกันมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมี ปลาการ์ตูนเพอร์คูล่า ปลาการ์ตูนดำ ปลาการ์ตูนอานม้าทอง ปลาการ์ตูนมะเขือเทศ ฯลฯ
“ปลาการ์ตูนในแต่ละสายพันธุ์สามารถเลี้ยงรวมกันได้ ยกเว้น ปลาการ์ตูนอานม้าทองและปลาการ์ตูนมะเขือเทศที่มีใจรักเป็นนักเลงเลยอยู่รวมกับใครไม่ได้นอกจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน”
พรทิพย์ให้ความรู้ด้วยว่า ในการผสมพันธุ์ปลานั้น ศูนย์วิจัยฯ นิยมให้ปลามีคู่เป็นของตัวเองไม่ต้องแย่งกับใคร โดยจัดสรรบ่อพร้อมปะการังให้อยู่คู่กันตราบนานเท่านาน ซึ่งปลาการ์ตูนจะพร้อมผสมพันธุ์เมื่อพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์อายุได้ 5-6 ปี แต่ปลาการ์ตูนส้มขาวหรือนีโมจะให้ไข่เร็วที่สุด คือ อายุ 2 ปี
ทั้งนี้ ปลาการ์ตูนจะเริ่มให้ไข่ในวันแรกที่ผสมพันธุ์และตั้งตารออีกประมาณ 7-8 วัน ลูกปลาตัวน้อยๆ ก็จะทยอยกันออกมาจากไข่ ซึ่งระหว่างนั้นเองเจ้าหน้าที่ก็จะนำสวิงมาช้อนลูกปลาเพื่อแยกออกไปบ่ออนุบาลที่จัดเตรียมไว้ แต่ก็ใช่ว่าไข่ของปลาการ์ตูนจะฟักตรงต่อเวลาทุกครั้งเพราะหากเมื่อไหร่ที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเมื่อนั้นลูกปลาที่อยู่ในไข่ก็จะฟักเป็นตัวช้า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะคอยสังเกตการณ์กันต่อไป
พรทิพย์ เล่าด้วยว่า อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของศูนย์ประมงสมุทรสาครแห่งนี้ คือ การเพาะพันธุ์ปลาสวยงามกลุ่มปลาสลิดหินได้เป็นผลสำเร็จแห่งแรกในประเทศไทย 3 ชนิด คือ ปลาสลิดนีออนหรือบลูเวลเวท ปลาสลิดหินชนิดปลาเปลี่ยนสีหางขาวและปลาสลิดหินชนิดเปลี่ยนสีหางเหลืองที่ใช้เวลากว่า 4 ปีจึงสำเร็จเป็นตัวตนออกมาประดับบ่ออีกหนึ่งสายพันธุ์
ปลากลุ่มนี้จะมีสีสันสวยงามโดยเฉพาะปลาสลิดหินนีออน ซึ่งตอนที่มีอายุประมาณ 1-6 เดือน ลูกปลาจะมีสีฟ้าอร่ามทั้งตัว พร้อมเพิ่มไฮไลต์ด้วยสีเหลืองตรงกลางลำตัว ซึ่งเมื่อปลาอยู่รวมกันก็สามารถทำให้บ่อสว่างได้ไม่ต้องอาศัยไฟนีออน
“ปลาสลิดหินนีออนพอโตขึ้นสักประมาณ 7-8 เดือน สีตัวจะกลายเป็นสีดำ ซึ่งจะไม่ค่อยสวย แล้วเวลามันตกใจ อย่างคนเอานิ้วไปจุ่มในบ่อมันก็จะเปลี่ยนสีถือเป็นคุณสมบัติพิเศษในตัวมันเลยก็ว่าได้”
พรทิพย์ บอกด้วยว่า ปัจจุบันตลาดปลาสวยงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ดังนั้น ทางศูนย์ประมงชายฝั่งสมุทรสาครซึ่งถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชิงพาณิชย์จึงจัดให้มีการอบรมความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปลาสวยงาม อาทิ การอนุบาลลูกปลา การดูแลปลาการ์ตูนและการเตรียมบ่อเพื่อเพาะเลี้ยงปลาการ์ตูน
ส่วนวิธีการเตรียมบ่อ หรือตู้ปลา เพื่อเลี้ยงปลาการ์ตูนนั้น พรทิพย์ บอกว่า ไม่ยากเลยเพียงแค่หาซื้อน้ำทะเลเทียมตามร้ายขายอุปกรณ์การเลี้ยงปลา เนื้อกุ้งสด เมื่อได้ครบแล้วก็นำน้ำทะเลเทียมใส่ลงไปในบ่อหรือตู้ปลา ตามด้วยเนื้อกุ้งสดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 6-7 วัน เนื้อกุ้งสดจะเป็นตัวสร้างแบคทีเรียที่ช่วยกำจัดของเสียในช่วงที่เลี้ยงให้เหมือนกับน้ำทะเล หลังจากนั้นก็นำปลาการ์ตูนมาปล่อยก็เป็นอันเสร็จพิธี
“อาหารที่ให้ปลาการ์ตูนกินก็จะมีไรทะเล เนื้อกุ้ง อาหารเม็ด นอกเหนือไปกว่านั้นคือที่นี่จะเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนขายด้วย ราคาก็จะแล้วแต่ขนาดและชนิดของปลา อย่างปลานีโมจะเซนติเมตรละ 7 บาท ปลาการ์ตูนขาวดำจะอยู่ที่นิ้วละ 500 บาท ซึ่งราคาจะขายตามที่กรมประมงกำหนด” พรทิพย์ อธิบาย
สำหรับใครที่ต้องการไปยลโฉมปลาทะเลสวยงามเหล่านี้ สามารถเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ทุกวัน ในเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3485-7138, 0-3442-6220
หรือไม่ก็ไปเที่ยวงาน “สมุทรสาคร เอ็กซ์โป 2008” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9-14 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งศูนย์ประมงชายฝั่งสมุทรสาครก็จะนำพันธุ์ปลาการ์ตูนสายพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมโชว์ความสวยงามกว่า 23 ชนิด พร้อมด้วยปลาสลิดหิน 3 สายพันธุ์ พร้อมทั้งจะมีการจำลองบ่อเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนมาให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ธรรมชาติของเจ้าปลานีโมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
