ททท.เตรียมปรับแผนเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวคืน เตรียมจัดแฟมทริป ประเดิมตลาดยุโรปและออสเตรเลีย ยังหวังดึงนักท่องเที่ยวกลับมาทันไฮซีซันปีนี้
พรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ททท.อยู่ระหว่างการเรียกประชุมผู้อำนวยการสำนักงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อหาแนวทางปรับแผนการตลาด คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับตลาดต่างประเทศ เบื้องต้น ททท.ส่วนกลางจะออกหนังสือเวียนไปทุกสำนักงานในต่างประเทศ เป็นหนังสือ ขอโทษ และ เสียใจกับความไม่สะดวก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับชี้แจ้งการดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย ที่ได้ดำเนินการมาทั้งหมด และบอกว่า ประเทศไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ
ทั้งนี้ ในเรื่องแผนการทำงานนับจากนี้ไป ประการแรก ต้องเร่งประชาสัมพันธ์กู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้กลับคืนมาโดยเร็ว ส่วนแคมเปญ อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลู อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ด้วย เพราะเหนือสิ่งใดนักท่องเที่ยวต้องการความมั่นใจ
“เราจะใช้เวทีงาน ลักซ์ชัวรี่ ทราเวล มาร์ท ที่ ททท.จะนำภาคเอกชน ร่วมเดินทางไปออกบูธระหว่างวันที่ 8-11 ธ.ค.นี้ ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ชี้แจงกับบริษัทนำเที่ยว ยืนยันให้เขาเกิดความมั่นใจในประเทศไทย ส่วนกิจกรรมที่จะทำเมื่อเปิดใช้สนามบิน คือ จะจัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวในเที่ยวบินแรกที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และ พิธีบ๊ายบาย นักท่องเที่ยว ในเที่ยวบินแรกที่ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน”
นอกจากนั้น จะจัดแฟมทริป เชิญสื่อและบริษัทนำเที่ยว เข้ามาเยี่ยมชมประเทศไทยอีกครั้ง โดยแบ่งเป็นรายตลาด เริ่มจากประเทศแถบยุโรปและออสเตรเลีย เป็นอันดับแรก เพราะ เชื่อว่า ยังสามารถตัดสินใจเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทย ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ต่อเนื่องไปถึงเดือนมีนาคมปีหน้าได้
ทั้งนี้พรศิริกล่าวยอมรับว่า ต้องโหมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทย มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนตลาดในประเทศ จะมีการออกแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ภายใต้สโลแกน “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” เช่นเดิม โดยจะมีแคมเปญย่อย ที่เรียกว่า “108 1900 ภารกิจเที่ยวไทย” ซึ่งจะบรรจุกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 70 งาน ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ยังยืนยันการจัดงาน คอนซูเมอร์แฟร์ “มหัศจรรย์เที่ยวไทย” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 20-21 ธ.ค.2551 ผู้ประกอบการโรงแรม และ สินค้าทางการท่องเที่ยว มาออกบูธ เปิดโปรโมชั่นลดราคามากกว่า 50%
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่จะของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นจำนวนเท่าใด เพราะ ททท.มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน เพื่อประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดให้มากขึ้นกว่าแผนงานเดิม แต่ทั้งนี้ ขอรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงานก่อน