xs
xsm
sm
md
lg

ยล 2 เมืองงามนาม "หังโจว-ซูโจว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย : แมวลาย
ทิวทัศน์ในทะเลสาบซีหู เบื้องหลังคือเจดีย์เหลยเฟิง
"บนฟ้ามีสรวงสวรรค์ บนปฐพีมีซู-หัง" คงเป็นคำกล่าวยืนยันถึงความงามของเมืองท่องเที่ยวทั้งสองแห่งของเมืองจีนได้ โดย "ซู-หัง" ที่ว่านั้น ก็คือเมืองหังโจว เมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง และเมืองซูโจว ในมณฑลเจียงซูนั่นเอง

คนจีนมีคำกล่าวว่า "เกิดที่ซูโจว เที่ยวที่หางโจว กินที่กวางเจา และตายที่หลิ่วโจว" เพราะคนซูโจวมีหน้าตาสวยงาม หางโจวก็มีทัศนียภาพสวยงามน่าอยู่ อาหารที่กวางเจาก็อร่อยน่ากิน ส่วนที่หลิ่วโจวก็มีไม้ดีเหมาะจะนำมาทำโลงศพ แต่วันนี้เราจะไปเยือนเพียงแค่เมืองหังโจวและซูโจวเท่านั้น
หนึ่งในโคมไฟสามดวงในทะเลสาบซีหู
สำหรับเมืองหังโจวนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามขึ้นชื่อก็คือ "ทะเลสาบซีหู" หรือทะเลสาบตะวันตก ทะเลสาบแห่งสำคัญของเมืองจีนที่มีอาณาเขตกว้าง 5.6 ตารางกิโลเมตร ล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้าน ในสมัยราชวงศ์ซ่ง เจ้าเมืองหังโจวได้สั่งให้ขุดลอกทะเลสาบแห่งนี้ที่แต่เดิมมีความลึกเพียงครึ่งเมตรให้ลึกขึ้นเกือบสองเมตรเพื่อระบายน้ำ แล้วนำดินที่ขุดขึ้นมาทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำ และแบ่งซีหูออกเป็นทะเลสาบขนาดเล็ก 5 แห่ง

ด้วยทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสาบซีหูนี่เอง เมืองหังโจวจึงจึงถือเป็นเมืองตากอากาศชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองจีน ว่ากันว่าที่เมืองหังโจวนี้ไม่มีโลว์ซีซั่น คนจีนเองก็บอกว่าทะเลสาบซีหูเหมือนนางไซซี ไซซีสวยทุกอิริยาบถ ซีหูสวยทุกฤดูกาล
นั่งชมบรรยากาศริมทะเลสาบซีหู
สำหรับการเที่ยวชมทัศนียภาพในทะเลสาบซีหูนั้นก็สามารถล่องเรือไปรอบๆ ทะเลสาบได้ โดยมีเรือหลายแบบให้เลือกนั่งตามจำนวนคน ทั้งแบบเรือยนต์ลำใหญ่ติดเครื่องปรับอากาศนั่งได้ประมาณ 30 คน ลำย่อมลงมาหน่อยนั่งได้ประมาณ 20 คน เปิดกระจกรับลมเย็นๆ หรือจะเป็นเรือเล็กที่ใช้แรงฝีพายพายอยู่ท้ายเรือ มีหลังคาคลุมก็จะได้ชมบรรยากาศกันอย่างเต็มที่

ทะเลสาบซีหูนี้ก็เป็นต้นกำเนิดของนิทานของจีนหลายเรื่องด้วยกัน ที่รู้จักกันดีก็คือนิทานเรื่องนางพญางูขาว เป็นเรื่องราวระหว่างนางพญางูขาวที่แปลงร่างมาเป็นหญิงสาวสวยและมีความรักกับชายหนุ่ม แต่ความรักนั้นก็ถูกขัดขวางโดยพระรูปหนึ่งที่เชื่อว่าพญางูนั้นเป็นปีศาจจะมาทำร้ายมนุษย์ สุดท้ายแล้วพระรูปนั้นก็จับนางพญางูขาวไปขังไว้ใต้เจดีย์เหลยเฟิงในบริเวณทะเลสาบซีหู และยังสาปไว้ว่านางจะสามารถกลับคืนสู่โลกมนุษย์ได้ก็ต่อเมื่อน้ำในทะเลสาบแห้งเหือดและเจดีย์พังลง
ไร่ชาที่หมู่บ้านชาเหมยเจียอู่
เจดีย์เหลยเฟิงที่ว่านั้นก็ตั้งอยู่ริมทะเลสาบซีหู มองดูโดดเด่นท่ามกลางทะเลสาบ แต่เจดีย์องค์นี้เป็นองค์ที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากที่องค์เก่านั้นพังไปแล้ว บางคนจึงพูดว่าที่เจดีย์พังนั้นก็เพราะมีคนมาช่วยนางพญางูขาวออกไปนั่นเอง

นอกจากนั้นก็ยังมีนิทานเรื่องตำนานรักผีเสื้อ เรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวที่ต้องสู้กับอุปสรรคขัดขวาง ทั้งเรื่องของฐานะ ชาติตระกูล และสุดท้ายฝ่ายหญิงก็ถูกบังคับคลุมถุงชนแต่งงานกับคนอื่น ในที่สุดเมื่อรักกันไม่ได้จึงตั้งใจว่าจะเมื่อตายไปก็จะขออยู่ร่วมสุสานเดียวกัน และเมื่อทั้งสองตายไปก็ได้กลายเป็นผีเสื้อบินเคียงคู่กันขึ้นมาจากหลุมศพ
บรรยากาศในหมู่บ้านชาเหมยเจียอู่
กลางทะเลสาบซีหูยังมีโคมไฟพระจันทร์ 3 ดวง ซึ่งในคืนจันทร์วันเพ็ญนั้น หากใครล่องเรือออกมาที่บริเวณโคมไฟนี้ก็จะได้เห็นพระจันทร์ทั้งหมด 32 ดวงด้วยกัน เพราะโคมไฟแต่ละโคมนั้นจะมีช่องแสง 5 ช่อง หากเปิดไฟในโคม แสงไฟก็จะลอดออกมาตามช่องทั้ง 5 ช่อง และสะท้อนลงบนผิวน้ำคล้ายดวงจันทร์ 30 ดวง รวมกับดวงจันทร์บนท้องฟ้าและเงาของดวงจันทร์บนผิวทะเลสาบ ก็รวมเป็นพระจันทร์ 32 ดวงพอดี

แต่หากใครไม่นั่งเรือล่องทะเลสาบก็สามารถเดินเล่นหรือนั่งชมทิวทัศน์ริมทะเลสาบได้ โดยรอบๆทะเลสาบนั้นจะปลูกต้นหลิวโน้มกิ่งลงสู่ทะเลสาบดูอ่อนช้อยและพลิ้วไหวยามมีลมพัดมากระทบ หรือหากจะท่องเที่ยวรอบๆ ทะเลสาบซีหูก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายให้เลือกชม
บรรยากาศอันร่มรื่นในสวนโอ่วหยวน
การเดินทางมาท่องเที่ยวกับทัวร์ในประเทศจีนนั้น มีกฎอยู่ว่าหากไปเที่ยวเมืองไหนแล้วก็จะต้องไปดูของดีของเมืองนั้น เมื่อเรามาที่หังโจวแล้วจึงต้องแวะไปชม "หมู่บ้านชาเหมยเจียอู่" ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบซีหูเท่าไรนัก โดยหมู่บ้านชาเหมยเจียอู่นี้ปลูกชาหลงจิ่ง ชาที่ขึ้นชื่อของจีน ชาที่ปลูกในหมู่บ้านนี้จะต้องแบ่งไว้ให้กับทางรัฐบาลบางส่วนเพื่อไว้ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อีกทั้งสมเด็จพระเทพรัตนฯก็เคยเสด็จมาที่นี่และมาทรงชิมชาที่นี่ด้วยเช่นกัน

หลังจากถูกต้อนเข้าห้องเพื่อฟังสรรพคุณต่างๆของใบชาหลงจิ่ง และลองจิบชาหลงจิ่งที่ว่ากันว่า "ดื่มชาหลงจิ่งเพียง 1 จิบ ปากจะหอมตลอดวัน" ใครใคร่ซื้อก็ขอเชิญซื้อ แต่หากยังไม่อยากควักกระเป๋าก็เดินออกมาชมไร่ชาที่ปลูกไล่ระดับกันบนภูเขาก็ได้

คราวนี้เดินทางมาที่เมืองซูโจวกันบ้าง ซูโจวได้ชื่อว่าเป็นเมืองสาวงาม แต่นอกจากสาวจะงามแล้ว ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มี "สวน" งดงามด้วยเช่นกัน
นั่งพักผ่อนในสวนโอ่วหยวน
ซูโจวได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งสวน" สวนที่ว่าก็คือการจัดสวนในที่พักอาศัยหรือที่วัด การจัดสวนในเมืองซูโจวนั้นมีประวัติมานาน 2,000 กว่าปี โดยในยุคชุนชิวชาวเมืองซูโจวได้รู้จักการสร้างและจัดสวนมาเนิ่นนานแล้ว มาในสมัยราชวงศ์หมิงแฟชั่นสร้างสวนของซูโจวยิ่งเป็นที่นิยม ทำให้ปลายสมัยราชวงศ์ชิงมีสวนทั้งในและนอกเมืองซูโจวรวมอยู่เป็นร้อยๆสวนเลยทีเดียว โดยสวนเหล่านี้มักจะอยู่ในจวนของเจ้านายชั้นสูง ขันทีและบ้านของเศรษฐีเป็นส่วนมาก จนปัจจุบันยังคงมีสวนที่มีสภาพสมบูรณ์ใกล้เคียงยุคสมัยโบราณอยู่ราว 10 กว่าแห่ง และสวนแห่งเมืองซูโจวนี้ก็ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก

วันนี้เราได้มาชม "สวนโอ่วหยวน" ซึ่งก็เป็นสวนในบ้านของเศรษฐีที่สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในสมัยราชวงศ์ชิง ภายในนั้นก็มีภูเขาจำลอง และมีการปลูกต้นไม้และจัดสวนที่ร่มรื่น เข้ากับสิ่งก่อสร้างสไตล์จีนของบ้านเช่นห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก
ชมขั้นตอนการทอผ้าไหมที่โรงงานผ้าไหมเมืองซูโจว
นอกจากนี้เมืองซูโจวนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมชั้นดี และที่นี่เราก็ได้มาชม "โรงงานผ้าไหม" ที่มีการสาธิตทุกขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นผ้าไหมหนึ่งผืนให้เราใช้กัน เริ่มตั้งแต่เล่าเรื่องราวของตัวไหม การเลี้ยงไหม จนเข้าสู่กระบวนการในโรงงานที่มีการคัดเลือกรังไหม ต้มรังไหมเพื่อเอาไยไหม ก่อนจะปั่นเป็นเส้นด้ายเพื่อนำมาทอเป็นผืนผ้า

และที่นี่ก็ยังมีการทำผ้าห่มรังไหมคู่ ซึ่งเกิดจากการที่มีตัวไหมสองตัวพ่นใยทำรังด้วยกัน รังไหมแบบนี้จะไม่สามารถปั่นออกมาเป็นเส้นด้าย จึงต้องใช้วิธีต้มแล้วดึงรังไหมให้แผ่ออกมาเป็นแผ่น ซ้อนกันเป็นหมื่นๆรัง จึงจะได้เป็นผ้าห่มผืนหนึ่ง ขั้นตอนการดึงรังไหมนี้นักท่องเที่ยวสามารถลองดึงดูได้ แล้วจะรู้ว่าไยไหมนั้นมีความเหนียวเพียงใด
ทดลองดึงรังไหมเพื่อทำผ้าห่มรังไหมคู่
ในตอนหน้าซึ่งเป็นตอนสุดท้าย เราจะพาไปชมเมือง "อู๋ซี" ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองเซี่ยงไฮ้น้อย ก่อนจะลาจากเมืองจีนกันไป จะมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นขอให้ติดตามต่อไป


*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 


สอบถามรายละเอียดการท่องเที่ยวประเทศจีนได้ที่ บริษัทซีโน่ ทัวร์ โดยอาจารย์ฟาน จูน โทร.0-2713-7956 ถึง 9
กำลังโหลดความคิดเห็น