บ้านเราเดี๋ยวนี้มีเปิดขายอาหารอิตาเลียนกันมาก มีทั้งอาหารอิตาเลียนรสแท้ๆ รสไทยๆ รสกลางๆไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งใครชอบแบบไหนก็สามารถไปหาหม่ำกันได้ตามสะดวก ดังเช่น"ผู้จัดการตระเวนกิน"ที่ในมื้อนี้เราไปตระเวนกินอาหารอิตาเลียนกันที่ร้าน"Basilico" ตรงสุขุมวิท 20
Basilico (บาซิลิโก้ ภาษาอิตาลี แปลว่า ใบโหระพา) ภายในร้านตกแต่งอย่างมีสไตล์ มีโซนโต๊ะให้เลือกนั่งอยู่ 2 โซน โซนแรกด้านนอกดูโมเดิร์นโปร่งโล่งสบายๆ มีโต๊ะนั่งที่ปูผ้าลายสก็อตสีเขียวดูสดใส มีเคาน์เตอร์บาร์ที่บริการเครื่องดื่มแบบครบครัน และที่โดดเด่นดูสะดุดตาก็คือมีเตาพิซซ่าอยู่มุมด้านในที่จะมีการโชว์ทำพิซซ่าให้เห็นกันด้วย ส่วนถ้าใครชื่นชอบบรรยากาศแบบเงียบๆ ดูเป็นส่วนตัวสักนิด ก็ต้องโซนโต๊ะนั่งด้านใน ที่จัดตกแต่งแบบดูอบอุ่น มีภาพวาดสวยๆ เก๋ๆ บนฝาผนังสร้างบรรยากาศให้กับการนั่งกินอาหาร และยังมีตู้เก็บไวน์ที่มีไวน์หลากหลายมาบริการให้กับนักดื่มไวน์กัน
ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Basilico ก็คือ ที่นี่เขานำเสนออาหารอิตาเลียนรสต้นตำรับ วัตถุดิบส่วนใหญ่ทางร้านสั่งตรงมาจากอิตาลี โดยมี Gianmichele Olivares เชฟชาวอิตาเลียน ที่มากไปด้วยประสบการณ์มาโชว์ฝีมือในการปรุงอาหารอิตาเลียนจานเด็ดให้ลูกค้าเกิดความอยาก(กิน)อยู่เป็นนิจ
ว่าแล้วเราก็ไม่รีรอประเดิมเปิดมื้อกันด้วยไฮไลท์ประจำร้านอย่างพิซซ่าที่มีให้เลือกมากมายหลายหน้า ซึ่งเราขอเลือกสั่ง พิซซ่า Sfiziosa (340 บาท++) ที่เป็นสูตรทางตอนเหนือของอิตาลี โดยจะเน้นแป้งพิซซ่าที่บางกรอบทั้งแผ่น ใส่เครื่องหลายอย่างมีทั้ง ไส้กรอก มะเขือเทศ เห็ด ผักร็อกเก็ต มอซซาเรล่าชีส และซอสมะเขือเทศ ก่อนจะนำไปอบในเตาพิซซ่าพิเศษที่หมุนได้และใช้ไม้สนเป็นฟืน ทำให้ได้พิซซ่าที่หอมกรุ่น กินแล้วได้สัมผัสถึงรสชาติพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่แป้งบางกรอบเข้ากับเครื่องทุกอย่างที่ใส่มา
หลังจากที่ได้กินพิซซ่าจนสมใจอยาก เราก็ได้เลือกสั่งเมนูอิตาเลียนจานเด่นของที่นี่มาลิ้มรสกันอีกมาก ซึ่งแต่ละเมนูถือว่าเป็นอาหารจานเด็ดพิเศษที่ชวนกินทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Linguine with Crab Meat, Bottarga in White Wine Sauce (650 บาท++) อาหารจานเส้นที่โดดเด่นตรงที่เป็นพาสต้าLinguineเส้นแบน นำมาผัดกับเนื้อปูทะเลสดๆ และผัดใส่กระเทียม พริก และไวท์ไวน์ซอสสูตรเด็ดของทางร้าน ม้วนเส้นพาสต้าส่งเข้าปากเส้นเหนียวนุ่มซึมรสชาติซอสกลมกล่อมและเข้ากันกับเนื้อปู
เมนูต่อมาเป็นอาหารจานปลาที่มีชื่อว่า Seabass Lemon Sauce (600 บาท++) เป็นปลาSeabassที่นำมากริลล์จนได้ที่ แล้วก็ราดด้วยซอสเลมอนสูตรเด็ดเฉพาะ และยังมีอโวคาโดกับผักต่างๆ มาให้กินเคียงกับปลาด้วย ลิ้มรสชาติปลาเนื้อนุ่มไม่คาวผสานรสชาติเข้ากันได้ดีกับซอสเลมอนที่ออกเปรี้ยวๆ
ส่วนอีกหนึ่งเมนูจานเด่นที่ชวนกิน คือ Oven Baked US Scallops (550 บาท++) เป็นหอยเชลล์ตัวใหญ่ที่นำมาเข้ามาจากอเมริกาทางร้านนำไปทอดในกระทะให้พอเหลือง แล้วก็มีซอสสูตรเด็ดของเชฟราดมาบนหอยก่อนจะนำไปอบอีกที และมาพร้อมกับสลัดผักร็อคเก็ตและมะกอกดำ ชิมหอยเชลล์ตัวใหญ่เคี้ยวเต็มปากเต็มคำเนื้อหวานฉ่ำสดนุ่มเด้งหนึบกลมกลึงรสชาติเข้ากันกับซอสรสเด็ดที่ออกเผ็ดปลายลิ้นนิดๆ
และก็ขอส่งท้ายด้วยเมนูของหวาน Tiramisu (150 บาท++) ที่ทำตามแบบฉบับสูตรเด็ดของเชฟที่ไม่เน้นหวานมากนัก ชิมแล้วก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มเนียนเย็นปากและหวานกำลังดีของทีรามิสุที่หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ
ถึงแม้ว่าเราจะปิดมื้ออิ่มแต่เพียงเท่านี้ แต่ที่นี่ก็ยังมีเมนูอิตาเลียนที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ พิซซ่าBasilico (420 บาท++) พิซซ่าMargherita (190 บาท++) Mix Imported Salami & Parma Ham (250 บาท++, 480 บาท++) Rocket Salad with Italian Sausage (250 บาท++) Spaghetti with Seafood (420 บาท++) Grilled T-Bone Steak (900 บาท++) ฯลฯ เอาเป็นว่าหากใครอยากจะกินพิซซ่าและอาหารอิตาเลียนแบบแท้ๆ ร้าน"Basilico"ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"Basilico" (บาซิลิโก้) ตั้งอยู่ที่ 15/1 สุขุมวิท 20 คลองเตย กทม.การเดินทางมาจากถ.สุขุมวิท แล้วตรงมาที่สุขุมวิท 20 เลี้ยวเข้าไปในซอยประมาณ 350 ม. จะเห็นร้านบาซิลิโก้อยู่ซ้ายมือ มีที่จอดรถด้านในร้าน เปิดจันทร์-พฤหัสบดี 11.30-14.30 และ 18.00-23.30 ศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.30-23.30 ถ้ามาทานศุกร์-อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนที่ โทร. 0-2663-6633 และทางร้านมีบริการส่งDelivery ด้วย โทร. 0-2663-6633 และยังมีอีก 1 สาขาอยู่ที่สุขุมวิท 33 โทร. 0-2662-2323
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "Basilico" (บาซิลิโก้)