xs
xsm
sm
md
lg

ออกพรรษา มหัศจรรย์อีสานริมฝั่งโขง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ริมโขงเชียงคาน พร้อมแล้วสำหรับงานออกพรรษาปีนี้
ในกลุ่มจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงทางภาคอีสานของประเทศไทยเรา มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ มีธรรมชาติสายน้ำที่ไหลผ่านหุบเขาสองฝั่ง มีหาดทราย เกาะแก่ง และโขดหินที่แปลกตาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสวยงามตามธรรมชาตินั้น และนอกจากธรรมชาติแล้วในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีก็มีความโดดเด่นน่าสนใจเป็นอย่างมาก

โดยในช่วงเทศกาลออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน11 นี้ ทางกลุ่มจังหวัดอีสานลุ่มน้ำโขงก็ได้จัดกิจกรรมกันอย่างครึกครื้นตามแบบฉบับวัฒนธรรมประเพณีของท้องที่นั้นๆ

ออกพรรษาเชียงคาน เลย

ประเพณีออกพรรษา อ.เชียงคาน จ.เลย เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยพิธีกรรมหลักๆที่ยังคงปฏิบัติสืบมาได้แก่ การตักบาตรเทโวโรหณะ การไหลเรือไฟ การทำต้นปราสาทผึ้ง ซึ่งในปีนี้ชาวเชียงคานจะได้ร่วมสืบสานประเพณีและความเชื่อที่สุญหายไป และจะได้นำกลับมาด้วยความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของบรรพชนเพื่อสืบทอดสู่เยาวชนคนรุ่นหลังได้แก่ การลอยปราสาทผึ้ง และเรือไฟบก
การละเล่นผีขนน้ำเชียงคาน
สำหรับปราสาทผึ้ง หรือ ผาสาทผึ้ง เกิดจากความเลื่อมใสศรัทธาอันถือว่าเป็นบุญสูงสุด เพราะผึ้งเกี่ยวพันกับศาสนา ชาวเชียงคานเชื่อว่าการถวายต้นปราสาทผึ้งโดยการลอยตามแม่น้ำโขง เป็นการแสดงความเคารพบูชาแก่พญานาค เพื่อให้พญานาคปกป้องคุ้มครองในการเดินเรือให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นพิธีดั่งเดิมที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของ อ.เชียงคาน

ส่วนประเพณีการไหลเรือไฟบก เป็นพิธีกรรมของชาวพุทธศาสนิกชนในประเพณีออกพรรษาเช่นกัน มีการประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา และมีความเชื่อว่าเป็นการทำพิธีสักการะพญานาคที่สถิตย์อยู่ตามแม่น้ำโขงให้คุ้มครองรักษาผู้ที่สัญจรทางน้ำไม่ให้เกิดอันตราย ซึ่งจะมีการทำพิธีในตอนเย็นของวันขึ้น 15 ค่ำ

นอกจากนี้ในงานออกพรรษาเชียงคาน ยังมีอีกหนึ่งประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือ “การเล่นผีขนน้ำ” ซึ่งเป็นประเพณีการละเล่นพื้นบ้านของชาวบ้านนาซ่าว อ.เชียงคาน ตามความเชื่อของชาวบ้านเชื่อว่าผีขนหรือตัวหน้างามเป็นทหารบริวารของเจ้าปู่ เจ้าปู่จะลงมาเล่นด้วยโดยผ่านร่างทรง จะแต่งกายชุดเจ้าพ่อสวยงามตามที่เตรียมไว้ร่วมแห่กับผีขนไปรอบๆหมู่บ้าน และยังเชื่อว่าการเล่นผีขนเกี่ยวข้องกับพิธีขอฝนด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วผีขนน้ำจะจัดขึ้นในงานบุญบั้งไฟเดือน 6 แต่ในช่วงวันออกพรรษาปีนี้ก็จะมีการละเล่นมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน

สำหรับงานออกพรรษาเชียงคานปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12-15 ต.ค. โดยจะจัดพิธีเปิดงานประจำปี 51 ในวันที่ 12 ต.ค. บริเวณสามแยกสาธารณสุข พร้อมทั้งกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวลีนารีรัตน์, การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ, ร่วมงานพาแลงและการแสดงทางวัฒนธรรมอีกหลากหลาย เป็นต้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานเลย โทร.0-4281-2812
บั้งไฟพญานาค ลูกไฟมหัศจรรย์แห่งลำน้ำโขง
มหัศจรรย์บั้งไฟพญานาค หนองคาย

บั้งไฟพญานาค ตามตำนานเล่าว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปโปรดพุทธมารดาเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อกลับสู่โลกมนุษย์เหล่าบรรดาพญานาคี นาคเทวี พร้อมทั้งบริวารได้จัดทำเครื่องบูชาและพ่นบั้งไฟถวาย ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”

บั้งไฟพญานาค เป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์แห่งลุ่มน้ำโขง ในช่วงวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี จะเกิดลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง ปรากฏจากเหนอผิวน้ำตั้งแต่ระดับ 1-30 เมตร แล้วจะพุ่งขึ้นสูงประมาณระดับ 50-150 เมตร ประมาณ 5-10 วินาที แล้วดับหายวับไปในอากาศ โดยลูกไฟจะไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง และจะปรากฏให้เห็นตั้งแต่เวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงประมาณ 23.00 น. ซึ่งจะมีปรากฏการณ์ในช่วงวันออกพรรษาเท่านั้น

โดยผู้ที่สนใจสามารถชมบั้งไฟพญานาคได้บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในหลายจุดด้วยกัน ได้แก่ อ.สังคม, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.เมืองฯ, อ.โพนพิสัย, กิ่งอ.รัตนวาปี, อ.ปากคาด, อ.บึงกาฬ และอ.บึงโขงหลง เป็นต้น

สำหรับเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 ต.ค. 51 ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง โดยมีกิจกรรมหลักๆ อาทิ การแสดงแสง-เสียงเปิดตำนานบั้งไฟพญานาค, การแข่งขันเรือยาวประเพณีและเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ, การประกวดกระทงยักษ์ พิธีบวงสรวงเจ้าแม่สองนาง, พิธีบวงสรวงพระธาตุกลางน้ำ, การตักบาตรเทโวโรหนะ, การประกวดกองเชียร์เรือยาว และการแสดงอีกมากมาย เป็นต้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.สำนักงานอุดรธานี หนองคาย โทร.0-4232-5406-7
ตระการตาประเพณีไหลเรือไฟ นครพนม
ตระการตาริมฝั่งโขง กับไหลเรือไฟ นครพนม

ประเพณีไหลเรือไฟ เป็นพิธีกรรมทางพุทะศาสนาอย่างหนึ่งที่มีความเก่าแก่และเป็นประเพณีอันดีงามที่สืบสานยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ จัดให้มีขึ้นในช่วงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 หรือในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ซึ่งถือเป็นวันปวารณาออกพรรษา เพื่อสืบทอดและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม โดยเฉพาะท้องถิ่นที่มีแม่น้ำ โดยชาวบ้านจะจัดทำเรือไฟโบราณขนาดเล็กออกไปลอยน้ำตามความเชื่อที่ว่าเป็นการจุดประทีป เป็นประเพณีหนึ่งที่ชาวอีสานบางส่วนที่อาศัยอยู่ใกล้ริมน้ำยึดถือปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้ โดยมีความเชื่อในเรื่องของการบูชารอยพระพุทธบาท การบวงสรวงพระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ การขอฝน การเอาไฟเผาความทุกข์ การขอขมาและระลึกถึงพระคุณพระแม่คงคา
การทำเรือไฟโบราณในงานไหลเรือไฟ
ในสมัยก่อนเรือไฟจะทำมาจากต้นกล้วย แต่ในปัจจุบันได้จัดทำเรือไฟรูปแบบต่างๆโดยมีการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ประกอบในการจัดทำ ทำให้สามารถดัดแปลงเรือไฟให้มีรูปร่างแปลกตาออกไป และประดับตกแต่งให้วิจิตรตระการตามากยิ่งขึ้น และตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 เป็นต้นมา ทางจังหวัดได้มีการขอพระราชทานไฟพระฤกษ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยอัญเชิญมาจุดเรือไฟแบบดั้งเดิมแล้วจุดต่อไปยังเรือไฟประกวดลำอื่นๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลของการจัดงาน
สีสันงานไหลเรือไฟ
สำหรับในปีนี้ จ.นครพนม ได้จัดงานประเพณีไหลเรือไฟ ในระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค. ริมแม่น้ำโขงและหน้าตลาดอินโดจีน อ.เมือง โดยมีกิจกรรมในงาน อาทิ การแข่งขันเรือยาวระหว่างประเทศ, มหกรรมการไหลเรือไฟและการไหลเรือไฟโบราณ, การตักบาตรเทโว, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดในกลุ่ม สนุก และจาก สปป.ลาว/เวียดนาม เป็นต้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานนครพนม โทร.0-4251-3490-1
แข่งเรือออกพรรษา เบิกน่านน้ำ ตีช้างน้ำนอง มุกดาหาร
แข่งเรือออกพรรษา เบิกน่านน้ำ ตีช้างน้ำนอง มุกดาหาร

ประเพณีส่วงเฮือ หรือ การแข่งเรือ ในลำน้ำโขงซึ่งจะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ตรงกับวันออกพรรษา ซึ่งน้ำในลำโขงกำลังเต็มฝั่ง ปราศจากเกาะแก่งประชาชนพลเมืองกำลังว่างจากการทำนา เมื่อทุกหมู่บ้านมารวมกันมากๆจึงได้มีการจัดเรือที่ใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง มาแข่งขันพายเรือกันเพื่อความสนุกสนานและยังเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระแม่คงคา พญานาค เทวดา เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข
ฝีพายออกแรงเต็มที่ในงานแข่งเรือออกพรรษา มุกดาหาร
ซึ่งก่อนที่จะมีการแข่งขันก็จะต้องมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยจะมีพิธีเบิกน่านน้ำ อันเป็นพิธีบวงสรวงพระแม่คงคา พญานาค ขออนุญาตใช้แม่น้ำโขงทำการแข่งขันเรือยาว และพิธีตีช้างน้ำนอง ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมเก่าแก่ของการแข่งขันเรือยาวในลำน้ำโขงของจังหวัดมุกดาหาร โดยกระทำพิธีพาเหรดเรือจัดขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมพระฉายาลักษณ์ ทางน้ำติดตามด้วยเรือขบวนและเรือแข่งขันกว่า 50 ลำ จ้วงพายลงในแม่น้ำโขง สายน้ำที่กระเซ็นจึงเปรียบเสมือนโขลงช้างที่ลงว่ายน้ำในแม่น้ำโขง

สำหรับงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา จ.มุกดาหาร นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-15 ต.ค. บริเวณท่าน้ำเขื่อนริมโขงตลาดอินโดจีน อ.เมือง โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ มหกรรมอาหารไทย-อินโดจีน, พิธีแห่อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ, พิธีแห่ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ, พิธีตีช้างน้ำนอง, การไหลเรือไฟ, การแสดงวัฒนธรรมภาคอีสาน และออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมือง เป็นต้น สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานนครพนม มุกดาหาร โทร.0-4251-3490-1
ริมโขง อ.โขงเจียม ปีนี้จะคึกคักไปด้วยงานบุญออกพรรษา
บุญออกพรรษาอีสานใต้มหัศจรรย์สายน้ำ อุบลราชธานี

สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี อีกหนึ่งจังหวัดริมโขง เมื่อถึงฤดูน้ำหลากหลายชุมชนก็คึกคักด้วยงานแข่งขันเรือยาวมหัศจรรย์สายน้ำโขง ชี มูล ขึ้น โดยมีการแข่งขันเรือยาวขึ้นหลายรายการ ส่วนในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 นั้นได้มีการจัดงานประเพณีบุญออกพรรษาและไหลเรือไฟแม่น้ำมูล งานประเพณีไหลเรือไฟแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นการไหลเรือไฟแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่อำเภอโขงเจียม ซึ่งที่โขงเจียมนี้เป็นดินแดนทางตะวันออกติดลำน้ำโขงที่มีสีขาวขุ่น และเป็นที่ซึ่งมีแม่น้ำมูลที่มีน้ำลักษณะใสหรือออกสีครามไหลมาบรรจบกันทำให้เกิดแม่น้ำสองสีที่สวยงามขึ้น นอกจากนี้ยังมีงานบุญออกพรรษาตามวัดต่างๆทั่วจังหวัด

โดยในวันที่ 14 ต.ค. จะมีประเพณีบุญออกพรรษาและไหลเรือไฟแม่น้ำมูลที่บริเวณเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย ส่วนงานประเพณีไหลเรือไฟแม่น้ำโขง จะมีที่ อ.โขงเจียม และยังสามารถชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคได้ที่หมู่บ้านริมโขงเบื้องล่างของผาแต้มคือ หมู่บ้านกุ่ม บ้านตามุย และบ้านท่าล้ง อ.โขงเจียม สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทร.0-4524-3770, 0-4525-0714
กำลังโหลดความคิดเห็น