จากการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศ ยกเลิกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีช่วยช่วยทำให้ สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศได้ไทยนั้น ทำให้หลายหน่วยงานเริ่มยิ้มออกมีความหวังกลับการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกแหล่งท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้
น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ กล่าวว่า การยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้นักท่องเที่ยวคลายความกังวลได้ระดับหนึ่ง แต่นักท่องเที่ยวในประเทศยังรอดูสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ โดยเฉพาะการสรรหานายกรัฐมนตรี
“การจัดงานไทยเที่ยวไทย ยังคงมียอดการซื้อและการจองแพ็คเกจท่องเที่ยว สูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีความพยายามคลี่คลายสถานการณ์การเมืองในขณะนี้น่าจะทำให้ยอดการท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปี สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ได้”น.ส.มัยรัตน์กล่าว
ขณะที่ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ในช่วงที่มีประกาศพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นั้น โดยประมาณความเสียหายจากแอตต้า ซึ่งประกอบไปด้วยสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทุกส่วน ทั้งโรงแรม ทัวร์ในประเทศ และต่างประเทศ เป็นต้น
พบว่านับตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่ปิดสนามบิน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ลดลงไปราว 30%จากปกติที่มีนักท่องเที่ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละ 8,000-10,000 คน
หากคิดจากเป้าหมายการท่องเที่ยวปี2551ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือ ททท. ที่จะมีนักท่องเที่ยว15 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 6 แสนล้านบาท แล้ว สามารถประเมินความเสียหายจากรายรับด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ประมาณ 300-450ล้านบาท จากเป้าหมายรายได้เดิมเฉลี่ยวันละ 1,500 ล้านบาท ไม่รวมรายได้จากการจับจ่ายซื้อสินค้า
ข้อมูลความเสียหายที่แอตต้านำเสนอต่อททท.ได้ทราบว่าภายหลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายถึงขณะนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศที่เข้ามาในประเทศลดลง ได้แก่ มาเลเซีย ลดลง 80% สิงคโปร์ ลดลง50% เวียดนาม ลดลง 90% จีน ลดลง 80%เกหลี ลดลง50%ญี่ปุ่น ลดลง 10% ฮ่องกง ลดลง 60-70% อินเดีย ลดลง 40%ฮอลแลนด์ ลดลง 20% เยอรมนี ลดลง 15-20% รัสเซีย ลดลง 30% และอียิปต์ลดลง 30%
สำหรับการติดตามกระแสการยกเลิกการเข้ามาในประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่นโดยเฉพาะตุลาคม2551-เมษายน2552 แอตต้า คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจากยุโรป สแกนดิเนเวีย รัสเซีย อาจหายไปกว่า 1 ล้านคน รวมตัวเลขการยกเลิกทัวร์ช่วงไฮซีซั่นของต่างชาติถึง30%
โดยทัวร์จีนและญี่ปุ่น ยกเลิกทั้งหมดรวมถึงรัสเซียที่เริ่มทยอยยกเลิก คงเหลือเพียงยุโรป กลุ่มเช่าเหมาลำที่ยังรอดูสถานการณ์อยู่ จึงเป็นที่แน่นอนว่าการคาดการณ์ของแอตต้าว่า หากเหตุการณ์ล่วงผ่านวันที่ร้อยไปโอกาสความสูญเสียของธุรกิจท่องเที่ยวจะคิดเป็นกว่า 1 แสนล้านบาท น่าจะเป็นความจริงแล้วในขณะนี้
ด้านนายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นเป็นบันไดขั้นแรกในการคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
“ในส่วนของภาคเอกชนเองก็จะต้องเร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวเช่นกัน เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวในฝั่งอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้ามาในอันดับต้นๆ”นายสมบูรณ์กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการคือเรื่องของความปลอดภัยและเรื่องของการปิดสนามบิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องได้รับการยืนยันเช่นกันว่าจะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก เชื่อว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นการท่องเที่ยวของภูเก็ต พังงา กระบี่ ก็น่าจะกลับมาเหมือนเดิมในช่วงไฮซีซันที่จะถึงนี้
ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวโดยภาพรวมของจังหวัดภูเก็ตขณะนี้ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์โดยรวมหลังจากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตลดลงกว่า 30% จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ในช่วงปกติ
ส่วนความเห็นกรณี กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เห็นด้วยถ้าหากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังมีภาพการเป็นนอมินีของอดีตนายกทักษิณ นั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายควรจะถอยคนละก้าวโดยคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ ต้องมีความประนีประนอม ตั้งใจทำงาน สามารถประสานงานได้กับทุกฝ่าย ส่วนกลุ่มพันธมิตรต้องยอมรับในบางเงื่อนไขเพื่อให้การพัฒนาประเทศเดินหน้าไปได้
โดยสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นที่จะถึงนี้ และในปี 2552 นายสมบูรณ์ มั่นใจว่า หากการเมืองในประเทศนิ่ง และททท.มีกิจกรรมต่อเนื่องในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา คิดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี แม้ว่าจะมีปัจจัยในเรื่องน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้องแต่ก็เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งจะต้องมีกลยุทธ์ในการดึงนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาอยู่แล้ว
มั่นว่าทิศทางการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และฝั่งอันดามัน ในปี 2552 ยังจะดีและเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะย่ำแย่มากนัก แม้ว่าจะได้รับผลกระทบเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงปิดสนามบินภูเก็ต และจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งการที่รัฐบาลได้ยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างประเทศได้กลับคืนมาโดยเร็ว
ขณะที่นายอรุณ โสฬส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราไวย์ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพราะว่าที่ผ่านมามีผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการยกเลิกการจองห้องพัก ทั้งโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งในพื้นที่
ทางด้านนักธุรกิจใน จ.ภูเก็ต ระบุว่า หลังจากยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะช่วยให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร เลือกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวต่อใน จ.ภูเก็ต รวมทั้งอาจจะมีเที่ยวบินตรงจากประเทศต่างๆ เข้ามายัง จ.ภูเก็ต เพิ่มขึ้นด้วย
ด้าน องค์กรการท่องเที่ยวภาคเอกชนในสงขลา ก็ได้เร่งประสานไปยังบริษัททัวร์ต่างประเทศเพื่อแจ้งให้ทราบกรณีไทยประกาศ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว
โดยทางสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา รวมถึงสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ได้ประสานไปยังบริษัททัวร์ใน 3 ประเทศที่เป็นลูกค้าหลักของ จ.สงขลา ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ กรณีที่รัฐบาลไทยประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ
นายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า การประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นและจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของ จ.สงขลา เนื่องจากมีเสียงสะท้อนในทางที่ดีจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 3 ประเทศ โดยเฉพาะปลายเดือนนี้ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลบุญ ทั้งฮารีรายอ ของชาวมุสลิม และตรุษจีน ของชาวจีน ซึ่งคาดว่าจะมียอดจองห้องพักในช่วงดังกล่าวอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าวจะไม่เกี่ยวกับใน จ.สงขลา และในภาพรวมก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน