หากใครที่เคยสัมผัสบรรยากาศแห่งโลกใต้ทะเล คงปฏิเสธไม่ได้ถึงมนต์เสน่ห์อันงดงามยากจะลืมเลือน
สำหรับประเทศไทยเองก็มีสถานที่ดำน้ำอันสวยงาม หลากหลายไปด้วยปะการังและสัตว์ทะเล ที่ได้รับการยอมรับจากนักดำน้ำทั้งชาวไทยและต่างชาติอยู่หลายแห่ง ซึ่งทางทีมงานประชาสัมพันธ์งาน Thailand Travel & Dive Expo 2008 ได้แนะนำ 5 สถานที่ดำน้ำสุดฮิป(HIP)ติดอันดับในดวงใจ จากการจัดอันดับของเซียนดำน้ำระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่แต่ละแห่งจะน่าสนใจแค่ไหนขอเชิญดำดิ่งไปสัมผัสกับแหล่งดำน้ำสุดฮิปในสวนอักษรกันได้
อันดับ 1 หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา 1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกยอดฮิตติดอันดับโลก ที่เป็นดังสวรรค์การดำน้ำของใครหลายๆคน เพราะหมู่เกาะสิมิลันเป็นแหล่งปะการังน้ำลึกอันอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีจุดดำน้ำหลายจุดกระจายกันไป ไม่ว่าจะเป็นกองหินใต้น้ำ แนวปะการังชายฝั่ง และแนวปะการังที่เชื่อมต่อระหง่างแนวลาดชันของชายฝั่ง
สำหรับจุดดำน้ำที่เด่นๆของสิมิลันก็มี แฟนตาซีรีฟ(เกาะแปด) เป็นจุดดำน้ำลึกที่มีกองหินใต้น้ำ 3 ลูก ที่มีความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตอันหลากหลาย ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล กัลปังหา และสัตว์น้ำจำนวนมาก เรือนกล้วยไม้(เกาะหก) จุดเด่นคือมีปะการังอ่อนสวยงามมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่งและมักพบปลาสิงโตและปลากระเบนธงขนาดใหญ่ที่นี่ กองหินม้วนเดียว(เกาะห้า) มีปะการังก้อนปะการังอ่อนสวยงาม และกัลปังหาขนาดใหญ่ คริสต์มาสพอยท์(เกาะเก้า) จุดนี้มีโพรงให้มุดมากมาย มีสัตว์ที่น่าสนใจอย่าง ปลาไหลริบบิ้นสีฟ้า กั้งตั๊กแตน ปลาปีศาจตัวแบน และปลากบ เป็นต้น
อันดับ 2 หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา เป็นจุดดำน้ำที่พบฉลามวาฬบ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทย สำหรับจุดดำน้ำอันโดดเด่นแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือ กองหินริเซลิว ลักษณะของกองหินใต้น้ำบริเวณนี้มีความหลากหลายมากในจุดเดียว ตั้งแต่เล็กสุดไปถึงใหญ่สุด หินใต้น้ำบริเวณนี้มีลักษณะคล้ายกับเป็นคอนโดมิเนียมใต้น้ำที่จะสัตว์น้ำตัวเล็กๆอาศัยอยู่ตามซอกมุมของหิน เช่น ปลากบ กุ้งตัวตลก ม้าน้ำ ทากทะเล ปะการังอ่อนหลากสี แถมบางครั้งยังอาจพบฝูงปลาสากยักษ์ และปลากะพงขนาดใหญ่จำนวนมาก
อันดับ 3 หินม่วง หินแดง อยู่ในเขตน่านน้ำจังหวัดกระบี่ต่อเนื่องกับจังหวัดตรัง(อันดามันใต้) มีแหล่งดำน้ำที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งหนึ่งของอันดามันใต้เพราะเป็นแหล่งปะการังอ่อนหลากสีสัน หินม่วง หินแดง มีลักษณะเป็นกองหินใต้น้ำ 2 กองอยู่กลางทะเล หินแดง คือบริเวณที่ปะการังอ่อนสีแดงปกคลุมหินแดงเกือบทั้งหมด(อันที่จริงปะการังอ่อนในบริเวณนี้มีหลากหลายสีมาก ไม่ว่าจะเป็น แดง ม่วง ขาว) อีกทั้งยังเป็นจุดที่มีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามกองหินมากมาย อาทิ ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ ฝูงปลาสาก ฝูงปลาหูช้าง ปลากะพง ปลาอินทรี ปลาช่อนทะเล แหวกว่ายรวมกลุ่มกัน รวมถึงดอกไม้ทะเลจำนวนมาก ในขณะที่ไกลออกไปประมาณ 200 เมตร จะเป็น หินม่วง ซึ่งมีความลึกมากกว่าหินแดง โดยบริเวณนี้จะมีปะการังอ่อนสีม่วงในบริเวณนี้มากกว่าสีอื่นๆ
อันดับ 4 เกาะตาชัย จ.พังงา อยู่ระหว่างหมู่เกาะสิมิลันกับหมู่เกาะสุรินทร์(อยู่ในเขต อช.สิมิลัน) ที่นี่จะพบสัตว์โลกใต้ทะเลหลากชนิดที่ถือว่าสมบูรณ์ไม่น้อย เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอีกแห่งหนึ่งเพราะเป็นบริเวณที่มีจุดดำน้ำหลากหลาย บริเวณเกาะตาชัยเต็มไปด้วยปะการังหลากสีสัน และจะมักพบกับสัตว์แปลกๆ เสมอ อาทิ ปลาปิศาจ ปลาสินสมุทรจักรพรรดิ์ ปลาขี้ตังเบ็ดสีฟ้า เกาะตาชัยเป็นจุดดำน้ำที่ค่อนข้างลึก มีกระสะน้ำพัดผ่านค่อนข้างแรง จึงเป็นจุดที่พบปะการัง กัลปังหา และเป็นจุดที่มักเจอสัตว์ขนาดใหญ่ อาทิ ฉลามวาฬ ฉลามเสือดาว กระเบนราหู เป็นต้น
อันดับ 5 เกาะบอน อช.สิมิลัน จ.พังงา ถือเป็นจุดดำน้ำที่ปลอดภัย มีน้ำใส มีปะการังก่อนขนาดเล็ก มีปลาชุกชุมมาก จุดเด่นของที่นี่คือ สะพานหิน ที่เกิดจากหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเป็นโพรงมองคล้ายสะพานโค้งข้ามแม่น้ำ นอกจากนี้นักดำน้ำยังมีโอกาสพบกระเบนราหูยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลได้บ่อยครั้ง ส่วนฉลามครีบดำก็มีมาให้เห็นกันบ้าง
และนั่นก็เป็น 5 แหล่งดำน้ำสุดฮิปในดวงใจของนักดำน้ำนั้น เป็นทะเลไทยในฝั่งอันดามัน ซึ่งนอกจาก 5 แหล่งดังกล่าวแล้ว น่านน้ำทะเลไทยฝั่งอันดามันยังมีแหล่งดำน้ำที่น่าสนใจ อาทิ ร่องน้ำจาบัง อุทยานฯหมู่เกาะตะรุเตา ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของปะการัง 7 สี อันสวยงาม กองหินหมูสัง หมู่เกาะพีพี ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เหล่าปะการังอ่อนสีชมพูที่ขึ้นเต็มยอดหิน อีกทั้งนักดำน้ำยังมักจะได้พบกับเจ้าฉลาม Leopard ตัวใหญ่ๆ ได้บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ทางฝั่งอ่าวไทยก็มีแหล่งดำน้ำที่สวยงามอยู่หลายจุดด้วยกัน ซึ่งที่โดดเด่นมากๆก็เห็นจะเป็น เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดดำน้ำขึ้นชื่อ มีปะการังจำนวนมากและสัตว์ทะเลอันหลากหลาย เกาะเต่าถือเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สวยงามที่สุดของทะเลอ่าวไทย กองหินชุมพร เป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดอีกจุดหนึ่งของทะเลอ่าวไทย มีลักษณะเป็นภูเขาใหญ่ใต้น้ำที่เต็มไปด้วยยอดหิน บนยอดหินมากมายด้วยฟองน้ำครก และเหล่าดอกไม้ทะเล ตามซอกหลืบหลายแห่งก็จะมีปะการังดำ สีขาว สีเหลือง สีส้ม ส่วนพวกปลาที่น่าสนใจก็มี ฝูงปลากะมง ปลาหูช้าง ปลาสาก และ เหล่าปลาหมอทะเลยักษ์ที่มักเข้ามาอาศัยหลบภัยอยู่ตามซอกหลืบต่างๆมากมาย
หันไปดูที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออกกันบ้าง ที่นี่มีหมู่เกาะช้าง จ.ตราด เป็นอีกจดดำน้ำที่น่าสนใจ โดยเฉพาะที่เกาะรัง เกาะยักษ์ นอกจากนี้ก็ยังมีตามจุดเรือจมอย่าง เรือจมสุทธาทิพย์(Hardeep) พัทยา ชลบุรี เป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ เรือจมสุทธาทิพย์ เป็นเรือกลไฟเหล็กของบริษัท Siam Steam Navigation ซึ่งจมอยู่ระหว่างเกาะโรงโขนกับเกาะจวง มีความลึกประมาณ 25 เมตร สภาพของเรือสุทธาทิพย์ในปัจจุบันยังคงทรงรูปเรือสวยงาม สำหรับการดำน้ำที่เรือสุทธาทิพย์ นักดำน้ำสามารถสัมผัสกับความงามของตัวเรือและสัตว์ทะเลอันหลากหลายได้ อย่างเช่น ทากพู่ เต่า กระเบน และปลาสาก ที่มีอยู่ชุกชุม
และนั่นก็เป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของความงามแห่งโลกใต้ทะเลไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำชมโลกใต้ทะเลจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎการดำน้ำอย่างเคร่งครัด ไม่ทำลายธรรมชาติ หัก เด็ด ปะการัง หรือสัมผัสกับสัตว์ใต้ทะเล ไม่ไล่ต้อนสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะด้วยมือหรืออุปกรณ์ ไม่เคลื่อนย้ายสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลเพียงเพื่อถ่ายภาพ ในขณะที่บนบกก็ไม่สนับสนุนของที่ระลึกที่ทำจากปะการังและสัตว์ทะเลอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อเก็บความงามและธรรมชาติของท้องทะเลไว้ให้อยู่คู่เมืองไทยตราบนานเท่านาน
*****************************************
สำหรับคนที่กำลังเตรียมหาข้อมูลการเรียนดำน้ำอย่างจริงจัง ตลอดจนทริปดำน้ำหลากหลาย สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์หรือศึกษาข้อมูลได้อย่างละเอียดกับครูฝึกได้ภายในงาน มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวและดำน้ำแห่งประเทศไทย 2551 (Thailand Travel & Dive Expo 2008) ที่จะจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2551
ภายในงานนี้จะได้พบกับ แพ็กเกจท่องเที่ยว-ดำน้ำที่มีให้เลือกมากมาย การแนะนำสถานที่ดำน้ำและแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล สินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับการดำน้ำมากมาย ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2682-9880