งานวิจัยล่าสุดชี้ชัด คริปโตได้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานลับของเครือข่ายฟอกเงินจีน (CMLOs) ที่ใช้เลี่ยงกฎควบคุมเงินทุนไหลออก พร้อมผนึกกำลังองค์กรอาชญากรรมตะวันตกตั้งแต่สายค้ายาฟีนทานิลไปจนถึงเครือข่ายบัญชีปลอม โดยบิทคอยน์-USDT ถูกยกระดับเป็นสกุลเงินกลางของโลกใต้ดิน ขณะที่ยุโรปเพิ่งทลายแก๊งสร้างบัญชีปลอมกว่า 49 ล้านบัญชีในปฏิบัติการครั้งใหญ่
รายงานวิจัยจาก Kathryn Westmore นักวิชาการอาวุโสประจำ Centre for Finance and Security แห่ง Royal United Services Institute (RUSI) เปิดเผยมิติใหม่ของอาชญากรรมการเงินจีน โดยระบุว่า "คริปโตได้กลายเป็นเสาหลักของระบบฟอกเงินใต้ดินของจีน" ซึ่งกำลังบ่อนทำลายมาตรการควบคุมเงินทุนไหลออกที่รัฐบาลปักกิ่งใช้อย่างเข้มงวดมาเป็นเวลาหลายปี
เครือข่ายฟอกเงินจีนดันบิทคอยน์-USDT เป็นเครื่องมือเคลื่อนเงินลับ
Westmore ระบุว่า Chinese Money Laundering Organisations (CMLOs) เริ่มบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับกระบวนการฟอกเงินเป็นกิจวัตร โดยเปลี่ยนเงินสดผิดกฎหมายให้เป็น Bitcoin หรือ USDT สำหรับผู้กระทำผิด เพื่ออาศัยความรวดเร็วและข้ามพรมแดนได้โดยไม่ต้องผ่านระบบการเงินดั้งเดิมและไม่ถูกรัฐควบคุม
โมเดลนี้ทำให้บุคคลต้องการโอนเงินออกนอกประเทศสามารถซ่อนร่องรอยผ่านคริปโตได้อย่างเงียบเชียบ แม้จีนจะมีกฎควบคุมเงินทุนไหลออกที่เข้มที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ตาม
จากข้อมูลของ Chainalysis ระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวเติบโตท่ามกลางสถิติอาชญากรรมคริปโตที่พุ่งสูง ผู้ลงทุนทั่วโลกสูญเงินกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 และถูกหลอกแบบการหลอกเชือดหมู หรือ pig-butchering อีกกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567
เชื่อมเครือข่ายค้ายาเฟนทานีลอเมริกา ใช้คริปโตเป็นตัวกลางใต้ดิน
งานวิจัยยังเปิดเผยว่า เครือข่ายฟอกเงินจีนไม่เพียงให้บริการแก่ผู้กระทำผิดภายในประเทศ แต่ยังกลายเป็นแขนขาทางการเงินขององค์กรอาชญากรรมตะวันตก โดยเฉพาะเครือข่ายค้ายาเฟนทานีลในสหรัฐฯ
ขณะที่รายได้จากการค้ายาในสหรัฐจะถูกแปลงเป็น Bitcoin หรือ USDT และส่งต่อไปยังบัญชีนอกชายฝั่งที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเศรษฐีจีนที่ต้องการช่องทางเคลื่อนย้ายเงินลับออกนอกประเทศ เสมือนเป็นตลาด "สองด้าน" ระหว่างทุนผิดกฎหมายตะวันตกและทุนต้องการหลบกฎควบคุมฝั่งจีน
นอกจากนี้ ผู้ขายสารตั้งต้นเฟนทานีลจำนวนมากในจีนยังรับชำระเงินด้วยคริปโตโดยตรง ทำให้บิทคอยน์และ USDT กลายเป็นกลไกชำระเงินหลักของห่วงโซ่อุปทานยาเสพติดสังเคราะห์ระดับโลก
บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Elliptic ยังพบหลักฐานธุรกรรมบนเชนที่เชื่อมโยงกับผู้ค้าสารเคมีในจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตเฟนทานีลทั่วโลก ยิ่งตอกย้ำบทบาทของคริปโตในระบบเงินใต้ดินข้ามทวีป
อาชญากรรมไซเบอร์ยุโรปใช้บัญชีปลอม 49 ล้านบัญชีลุยฉ้อโกง-ฟอกเงิน
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา Europol เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ "SIMCARTEL" ทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่สร้างบัญชีออนไลน์ปลอมกว่า 49 ล้านบัญชี รวมถึงบัญชีที่เชื่อมโยงแพลตฟอร์มคริปโตรายใหญ่
เครือข่ายนี้ดำเนินการแบบ "SIM farm-for-hire" ขายเบอร์โทรศัพท์ชั่วคราวใช้สำหรับยืนยันตัวตนแบบ 2FA ทำให้ผู้ร้ายสามารถผลิตตัวตนปลอมจำนวนมหาศาลสำหรับเปิดบัญชีอีคอมเมิร์ซ ธนาคารดิจิทัล และตลาดคริปโต โดยบัญชีปลอมเหล่านี้ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน กระจายแคมเปญฟิชชิ่ง และทำ "smishing" โจมตีผู้ใช้ยุโรปอย่างเป็นระบบ
มิติใหม่ของอาชญากรรมการเงินโลก ใช้คริปโตเป็นสะพานเชื่อมแหล่งทุน
ภาพรวมจากทั้ง RUSI และ Europol ชี้ตรงกันว่า คริปโตไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อเก็งกำไร แต่ได้กลายเป็น "โครงสร้างพื้นฐานการเงินใต้ดินระดับโลก" ที่เชื่อมระหว่างทุนผิดกฎหมายในเอเชีย-อเมริกา-ยุโรป
Westmore เตือนว่าปัญหานี้ยิ่งใหญ่เกินกว่ารัฐใดรัฐหนึ่งจะรับมือได้ ด้วยความเร็ว ขนาดเครือข่าย และความเป็นสากลของธุรกรรมคริปโต ทำให้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ผู้กำกับดูแล และบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างใกล้ชิด หากต้องการสกัดการฟอกเงินในยุคสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง
จากภาพรวมทั้งหมด คริปโตได้เปลี่ยนสถานะจากสินทรัพย์ทางเลือก สู่บทบาทเป็นเส้นเลือดใหญ่ของอาชญากรรมข้ามชาติและเป็นโจทย์ใหม่ที่โลกการเงินยังไม่เคยเผชิญมาก่อน


