บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ชี้แจงแนวทางและประโยชน์ของมาตรการ “โปรไฟไหม้” หรือ โครงการแก้ปัญหาหนี้รายย่อยผ่านกลไกบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC)” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ โดยเป็นการบูรณาการระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงิน เพื่อให้ลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสีย หรือ NPL (Non-performing Loan) สามารถ “ปิดจบหนี้” และ “กลับมามีชีวิตทางการเงินใหม่” และผลักดันให้สถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างเป็นระบบ
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้อำนวยการใหญ่ NCB เปิดเผยว่า มาตรการนี้ไม่ได้ทำให้ข้อมูลเครดิตของลูกหนี้ “หายไป” แต่กลับช่วยให้ช่วยลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงิน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. การบันทึกข้อมูลหนี้เสียและรหัสในระบบ NCB ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบัน สถาบันการเงินที่ขายบัญชีหนี้เสียออกไปให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) จะต้องบันทึกรหัส 42 ในข้อมูลเครดิต เพื่อระบุว่าบัญชีดังกล่าวได้ถูกขายออกไปแล้ว หากผู้รับซื้อหนี้ไม่ใช่สมาชิกของ NCB ระบบจะไม่สามารถติดตามข้อมูลการเคลื่อนไหวของบัญชีนั้นต่อไปได้
2. เมื่อชำระหนี้จบกับ AMC เมื่อลูกหนี้ที่มีบัญชีหนี้เสียสามารถชำระหนี้ครบถ้วนกับ AMC แล้วนั้น AMC จะออก “หนังสือยืนยันการชำระหนี้ปิดบัญชี” ให้เป็นหลักฐานเพื่อนำมาเปลี่ยนรหัสจาก 42 เป็น 43 ซึ่งหมายถึงบัญชีปิดชำระหนี้แล้ว โดยข้อมูลรหัส 43 จะคงอยู่ในระบบต่อไปอีก 3 ปี ก่อนจะหมดอายุการแสดงผลตามหลักเกณฑ์ของ NCB
3. ประโยชน์ของลูกหนี้จากมาตรการ “โปรไฟไหม้” การแก้ไขปัญหาหนี้เสียในครั้งนี้ มีการปรับปรุงระบบข้อมูลเพื่อให้ลูกหนี้ได้รับประโยชน์มากขึ้นและมีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบการเงินปกติได้เร็วขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
3.1 กำหนดให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่รับซื้อหนี้ ต้องส่งข้อมูลกลับมายัง NCB เพื่อให้สามารถติดตามสถานะของบัญชีได้อย่างต่อเนื่อง
3.2 หากลูกหนี้ชำระหนี้จบกับ AMC จะได้รับรหัส 11 ซึ่งหมายถึงการปิดบัญชีปกติ ข้อมูลนี้จะคงอยู่ในระบบอีก 3 ปี เช่นเดียวกับการปิดบัญชีทั่วไป
3.3 ในกรณีที่ลูกหนี้อยู่ระหว่างการผ่อนชำระกับ AMC หากมีการชำระหนี้ได้ดีและตรงเวลา จะได้รับรหัส 16 ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมทางการเงินในทางบวก ไม่ใช่ “ข้อมูลหาย” หรือ “ประวัติขาดตอน” อีกต่อไป
3.4 เมื่อชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว บัญชีที่เคยถูกขายออกในรหัส 42 จะเปลี่ยนเป็น 43 ซึ่งแสดงให้เห็นเส้นทางของการแก้ไขหนี้จาก “หนี้เสีย” สู่ “บัญชีปิดชำระแล้ว” อย่างชัดเจน
4. ฟื้นโอกาสทางการเงินด้วยวินัยทางการชำระหนี้ ลูกหนี้ที่เข้าสู่โครงการ “โปรไฟไหม้” และมีความตั้งใจชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง จะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะข้อมูลเครดิตจะสะท้อนพฤติกรรมที่ดีขึ้นในระบบ ไม่ใช่การลบหรือซ่อนข้อมูลเดิม แต่เป็นการ “สร้างความน่าเชื่อถือทางการเงิน” ให้เห็นพัฒนาการอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น


