มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) เดินหมากครั้งใหญ่ในสมรภูมิดิจิทัลไฟแนนซ์ ด้วยการเตรียมเข้าซื้อกิจการสตาร์ตอัปด้านคริปโต Zerohash มูลค่าระหว่าง 1.5-2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เสริมกลยุทธ์รุกคืบอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin เพื่ออนาคตของระบบการชำระเงินโลก
รายงานจาก Fortune เผยว่า มาสเตอร์การ์ด เจรจาเข้าซื้อกิจการ Zerohash บริษัทสตาร์ตอัปด้านคริปโต โดยประเมินมูลค่าระหว่าง 1.5-2 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อตกลงนี้ยังไม่ถูกยืนยัน 100% และอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่หากปิดดีลสำเร็จ จะถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของมาสเตอร์การ์ดในธุรกิจ Stablecoin ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเข้ามามีบทบาทในระบบการเงินโลกยุคใหม่
ก่อนหน้านี้ บริษัท Circle ผู้พัฒนาเหรียญ USDC เพิ่งเปิดตัวเครือข่ายทดสอบ (testnet) ของบล็อกเชน “Arc” ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นระบบปฏิบัติการทางเศรษฐกิจของอินเทอร์เน็ต โดยมีมาสเตอร์การ์ดร่วมเป็นหนึ่งในกว่า 100 บริษัทพันธมิตรจากภาคการเงิน เทคโนโลยี และระบบชำระเงิน อาทิ Visa, Goldman Sachs, BlackRock, Apollo และ BNY Mellon ที่เข้าร่วมโครงการระดับชั้นนำนี้
ในการประชุมรายงานผลประกอบการเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Ryan McInerney ซีอีโอของมาสเตอร์การ์ด เปิดเผยทิศทางชัดเจนว่า “Stablecoin ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเครือข่ายการชำระเงินของเรา ตรงกันข้าม เรามองว่าเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่ช่วยเสริมให้ระบบของเรามีความสมบูรณ์และหลากหลายมากขึ้น”
นอกจากนี้เขายังระบุเพิ่มเติมว่า มาสเตอร์การ์ดมองเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงสร้าง “on-ramp” และ “off-ramp” ระหว่างเงินสกุลดั้งเดิม (fiat) กับ Stablecoin เพื่อเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลและบริการทางการเงินอื่น ๆ พร้อมย้ำว่า บริษัทจะยังคงยืนหยัดอยู่แนวหน้าของนวัตกรรมทางการเงินโลก “เรามองเทคโนโลยีใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องหวาดกลัว แต่คือโอกาสในการยกระดับบริการ สร้างความเชื่อมั่น และขยายขอบเขตทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก”
ขณะที่การเจรจาเข้าซื้อ Zerohash ครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการวางหมากเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของมาสเตอร์การ์ด ในการขยายอิทธิพลเข้าสู่โลกคริปโตอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายไม่เพียงแต่แข่งขันกับ Visa หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินอื่น ๆ แต่ยังต้องการปักธงในฐานะ “ผู้เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมกับดิจิทัล” อย่างสมบูรณ์


