บล.กรุงศรี ชี้ ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวก รับ "อนุทิน ชาญวีรกูล"จ่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เปิดสถิติก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3% พร้อมเปิดโผหุ้น 8 กลุ่มเตรียมเฮ รับประโยชน์จากนโยบาย "ภูมิใจไทย" และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ชู STECON นำทีมพ่วง STPI, PTG, PRM, AMA ได้เฮรับรัฐบาลใหม่
หลังจาก สภาผู้แทนราษฎร ได้กำหนดวันนัดประชุมพิเศษวันศุกร์ที่ 5 ก.ย. 2025 เพื่อพิจารณาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 โดยรายงานล่าสุดระบุว่า จะเป็นการโหวตนายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นแคนดิเดทจากพรรคภูมิใจไทย และเพื่อไทย ในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แม้ว่าเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา พรรคประชาชนจะประกาศสนับสนุนนายอนุทิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ตาม ขณะที่พรรคเพื่อไทย ขอใช้โอกาสอีกครั้งในการเสนอนายชัยเกษม หลังจากร่าง พ.ร.ฏ. ยุบสภา ที่ยื่นไปเมื่อ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ถูก “ตีกลับ” จากสำนักองคมนตรี
บล.กรุงศรี เปิดสถิติย้อนหลังก่อนเลือกตั้ง SET ให้ผลตอบแทน 5.3%
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.กรุงศรี ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงที่พรรคภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังเชิงบวกตลาด ต่อการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในอีกไม่นาน โดยประเมิน SET มีโอกาสตอบรับทางบวก อิงสถิติก่อนการเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุด (พ.ค. 23, มี.ค. 19, ก.พ. 11, ธ.ค. 07, ก.พ. 05, ม.ค. 01) ในช่วง 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +5.3% (ความน่าจะเป็นผลตอบแทนบวก 60%)
สำหรับกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่า SET คือ กลุ่มปิโตรเคมี +12.6% (ความน่าจะเป็นผลตอบแทนบวก 60%) กลุ่มพลังงาน +9.8% (60%) เราประเมินมาจากผลบวก Fund Flows เป็นหลัก ทั้งนี้ อิง Cycle รอบนี้ เราแนะนำหุ้นปิโตรเคมีธีม Anti-involution คือ PTTGC IVL ผสานกลุ่มโรงกลั่น TOP
กลุ่มที่ผลตอบแทนใกล้เคียง SET คือ กลุ่มธนาคาร +4.8% (60%) กลุ่ม ร.พ. +4.8% (40%) กลุ่มการเงิน +4.8% (40%) กลุ่มค้าปลีก +4.7% (60%) ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Domestic ที่มีโอกาสได้ประโยชน์ระยะสั้นเม็ดเงินสะพัดก่อนเลือกตั้ง ผสาน นโยบายพรรคการเมืองส่วนใหญ่เน้นกระตุ้นภายใน ในกลุ่มนี้ เราแนะนำหุ้นค้าปลีก เน้นกลุ่มที่มีสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัด CPALL, GLOBAL กลุ่มธนาคาร SCB, KTB, KBANK กลุ่มเช่าซื้อ MTC, SAWAD และกลุ่ม ร.พ. ขนาดใหญ่ที่ Deep Value + คาดเป็นเป้าหมาย Fund Flows อาทิ BH, BDMS
ชู 8 กลุ่มหุ้น รับอานิสงส์นโยบายหลักภูมิใจไทย STECON นำทีม
นอกจากนี้หุ้นที่ตลาดมีโอกาสเห็นแรงเก็งกำไร คือกลุ่มที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากนโยบายหลักของพรรค ประกอบด้วย
1.) วงเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน + พักหนี้ 3ปี + Contract Farming +เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 2,000 บาท บวกต่อหุ้น Domestic ธนาคาร SCB, KTB, KBANK เช่าซื้อ MTC, SAWAD ค้าปลีก CPALL, GLOBAL
2.) ฟรีหลังคา Solar Cell บวกต่อ GULF, GUNKUL
3.) Landbridge รับเหมา STECON, CK นิคม WHA, AMATA โลจิสติกส์ SJWD
4.) รายได้ท่องเที่ยว 4 ปี 6 ล้านล้านบาท เพิ่มนักท่องเที่ยว 80 ล้านคน เน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว+จัดเทศกาลระดับโลก+Wellness Resort of the World ท่องเที่ยว ERW, CENTEL ร.พ. BDMS, BH
5.) รถเมล์ไฟฟ้า EA BYD NEX (กลยุทธ์เก็งกำไรสั้นๆ วางจุด Stop Loss ระมัดระวัง)
6.) กองทุนประกันชีวิต 60 ปี เสียชีวิตได้เงิน 1.0 แสนบาท บวกกลุ่มประกัน TLI BLA
7.) เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ทุกจังหวัด + ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ คาดมีโอกาสเปิด Upside ร.พ. เชื่อมโยงภาครัฐฯ กลุ่มประกันสังคม BCH
8.) หุ้นได้อานิสงส์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ อาทิ STECON, STPI, PTG, PRM, AMA