"ติดล้อ โฮลดิ้งส์"เตรียม ออกหุ้นกู้ครั้งแรก อายุ 3 ปี เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน โดยมี" เงินติดล้อ " ค้ำประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน คาดเปิดจองซื้อวันที่ 28-30 ต.ค. 68 นี้ ด้วยอันดับเรทติ้งระดับ A+
บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR ได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ เป็นครั้งแรก ที่เรทติ้งระดับ A+ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน โดยมีผู้ค้ำประกันคือ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
สำหรับหุ้นกู้ชุดใหม่ของบริษัทฯ ในครั้งนี้ เสนอขาย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ระหว่าง [2.70 – 2.95]% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ และมีมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยจะเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2568 นี้ โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ จำนวน 6 ราย ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "A+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจของ บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ และบริษัทในกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัทย่อยหลัก อย่าง บมจ.เงินติดล้อ ในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำทั้งในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถและธุรกิจนายหน้าประกันภัย นอกจากนี้ TIDLOR ยังมีธนาคารกรุงศรี (BAY) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จึงช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี
การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของบมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ หลังจากได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจและการจัดการแล้วเสร็จ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้ตราสารหนี้เดิมของบริษัทในกลุ่มที่ครบกำหนดไถ่ถอน (Refinance)
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้ และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน krungsri app หรือ โทร.1572)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ได้ ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-888 กด 869
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป CIMB Thai หรือ โทร. 02-626-7777
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปฯ Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน
สำหรับ บมจ.ติดล้อ โฮลดิ้งส์ ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรความน่าเชื่อถือที่ระดับ "A+" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เนื่องมาจากกลุ่มบริษัทมีผลประกอบการที่ดี สร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีพื้นฐานองค์กรที่แข็งแกร่ง และได้รับการสนับสนุนด้านธุรกิจและด้านการเงินจากธนาคารกรุงศรีฯ ซึ่งอันดับเครดิต A+ ยังอยู่ในระดับ “Investment Grade” สื่อถึงองค์กรที่มีความเสี่ยงต่ำมีความสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด และอันดับเครดิต A+ ยังถือว่าสูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกันอีกด้วย