xs
xsm
sm
md
lg

ขึ้นบัญชีดำกรรมการ บจ. / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ต้นสัปดาห์นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันแถลงถึงแผน การยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน โดยกำหนด “6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย”

6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย ประกอบด้วย บทบาทและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างมีประสิทธิผล ความรับผิดชอบของคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ความรับผิดชอบของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีและการเงิน การกำกับดูแลความเสี่ยง เชิงกลยุทธ์ขององค์กร การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน และการรายงานและการเปิดเผยข้อมูล

เป้าหมายของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯคือการยกระดับบรรษัทภิบาลที่ดีของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเริ่มต้นจากผู้นำองค์กรเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และยึดมั่นในจริยธรรม เพื่อวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้น และนำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจ สังคม และตลาดทุนโดยรวม

การออกข้อกำหนดมาตรฐานองค์ความรู้ของกรรมการบริษัทจดทะเบียน เป็นความคิดเชิงสร้างสรรค์ของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์และตลาด MAI รวมจำนวน 859 บริษัท จำนวนกรรมการรวมหลายพันคน ได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ตัวเอง ยึดมั่นในหลักธรรมมาภิบาล เพื่อดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้ลงทุน

คำถามคือ ความพยายามปลูกฝังสำนึกที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ให้บรรดากรรมการบริษัทจดทะเบียนจำนวนหลายพันคน จะหวังผลได้เพียงใดเท่านั้น

กรรมการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ล้วนมีพื้นฐานความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว แต่มักละเลยความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ถือหุ้น และหันไปยืนเคียงข้างกับฝ่ายบริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียน

ก.ล.ต. อาจมีความเข้มงวดกับบริษัทจดทะเบียน กำหนดให้ต้องตั้งกรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบอย่างครบถ้วน แต่ขาดความเข้มข้นในการกำกับ ควบคุมกรรมการบริษัทจดทะเบียน และกลับไม่มีบทลงโทษใดๆ สำหรับกรรมการที่ขาดความรับผิดชอบ

การฉ้อโกง การแต่งบัญชีงบการเงิน การทำธุรกรรมซื้อขายทรัพย์สิน การปล่อยเงินกู้ยืมให้กรรมการ บริษัทลูก หรือคนทั่วไป และการทุมงบลงทุนในโครงการต่าง ๆ เพื่อยักย้าย ถ่ายเทเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน ปล้นประชาชนผู้ลงทุน หรือการปั่นราคาหุ้น ซึ่งเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเกิดขึ้นมาตลอด 50 ปีนับแต่ก่อตั้งตลาดหุ้น อาจเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้ากรรมการบริษัทจดทะเบียนทุกแห่ง สำนึกในบทบาทหน้าที่ และปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน

เมื่อเห็นธุรกรรมใดที่ไม่ปกติ ไม่โปร่งใส เข้าข่ายผิดกฎหมาย และอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ผู้ถือหุ้น กรรมการบริษัทจดทะเบียนต้องลุกขึ้นคัดค้าน หรือแจ้งข้อมูลให้ก.ล.ต.รับรู้

เพื่อระงับยับยั้งผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่เตรียมสวมบทเป็นโจรปล้นผู้ถือหุ้น ก่อนที่ความเสียหายร้ายแรงจะเกิดขึ้น

แต่ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้น ไม่มีกรรมการบริษัทจดทะเบียนคนใดเป็น “ฮีโร่”ของนักลงทุน ไม่เคยมีกรรมการบริษัทจดทะเบียนคนใดแสดงความสำนึกต่อบทบาทและหน้าที่ของตัวเอง

และไม่เคยมีกรรมการบริษัทจดทะเบียนแห่งใด ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมความชั่วร้ายของฝ่ายบริหารบริษัทจดทะเบียน

ทุกคนมีความสุขกับเงินเดือนประจำ รับเบี้ยประชุมงามๆ และอาจมีสวัสดิการพิเศษอื่น ๆ โดยไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกับความเสียหายของประชาชนผู้ลงทุน

การออกข้อกำหนด 6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการบริษัทจดทะเบียนเป็นสิ่งที่ดี แต่คงไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆในบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการบริษัทจดทะเบียน

กรรมการบริษัทจดทะเบียนจะแสดงความสำนึก ต่อเมื่อบริษัทจดทะเบียนแห่งใด ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ ถูก ก.ล.ต.เปิดโปงพฤติกรรมโกง สร้างความเสียหายย่อยยับให้ผู้ลงทุน กรรมการจึงทำเป็นแสดงสปิริต ตบเท้ากันลาออก และย้ายไปสิงสถิตในบริษัทจดทะเบียนอื่นต่อ

ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ฯ ต้องปรับมุมมอง เปลี่ยนทัศนะคติเกี่ยวกับกรรมการบริษัทจดทะเบียนใหม่ อย่ามองโลกสวย แต่ต้องมองโลกในความเป็นจริง

อย่ามองว่า กรรมการบริษัทจดทะเบียนจำนวนหลายพันคนมีจิตสำนึกที่ดี มีความมุ่งมั่นจะร่วมสร้างสังคมที่ดี และมีอุดมการณ์ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล

แต่ต้องตระหนักว่า จะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไร เพื่อกำกับ ดูแลกรรมการบริษัทจดทะเบียน ให้ต้องปฏิบัติหน้าที่เจตนารมณ์ของ ก.ล.ต. โดยพิจารณากำหนดคุณสมบัติของกรรมการ และต้องผ่านกระบวนการอนุมัติคนที่จะเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียน เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้แนะนำการลงทุน

และมีบทลงโทษหรือพักใบอนุญาตการเป็นกรรมการ

การปลูกสำนึกความรับผิดชอบในบทบาทหน้าที่ ไม่อาจทำให้กรรมการบริษัทจดทะเบียนกลับมาทำหน้าที่ที่ดีในการปกป้องนักลงทุนได้ จึงจำเป็นต้องมีกฏกำหนดความรับผิดชอบของกรรมการ และมีบทลงโทษกรรมการที่ไร้สำนึก อย่างน้อยควรมีการขึ้นบัญชีดำกรรมการที่ปล่อยให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนโกงประชาชนผู้ลงทุน

การกำหนดบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ พร้อมบทลงโทษเท่านั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียกสำนึกกรรรมการบริษัทจดทะเบียน

ถ้า ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ไม่มีความกล้าในการกำหนดบทลงโทษกรรมการ ชาตินี้ไม่มีวันแก้ปัญหาขี้โกงในบริษัทจดทะเบียนได้








กำลังโหลดความคิดเห็น