xs
xsm
sm
md
lg

อินเวสทรีโชว์ยอดออกหุ้นกู้4.2พันล.-เล็งต่อยอดสู่Tokenization

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสาวณัทสุดา พุกกะณะสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบ 4 ปี นับจากได้รับใบอนุญาตผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) โดยมียอดระดมทุนสะสมทะลุ 4.2 พันล้านบาท สนับสนุนผู้ประกอบการไทยไปแล้วกว่า 120 ราย ผ่านดีลระดมทุนกว่า 2,000 ครั้ง ผลตอบแทน 11-12%ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของผู้ออก และปัจจุบันพอร์ตมีหุ้นกู้ครบกำหนดและชำระคืนแล้ว 91% ผิดนัดชำระหนี้เพียง 2% และเรามีประวัติติดตามเรียกคืนหุ้นกู้ผิดนัดชำระหนี้ได้ 79% ขณะที่ทิศทางการออกหุ้นกู้ผ่านแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง (Crowdfunding Platform)ทั้งระบบในปีนี้ยังมีทิศทางชะลอตัวต่อเนื่องตามภาพรวมเศรษฐกิจ โดยยอดคงค้างทั้งระบบ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,760 ล้านบาท ลดลง 60%จากช่วงเดียวกันของปี 67 ที่มียอดระดมทุน 4,364 ล้านบาท ลดลง 28%จากปีก่อนหน้า ขณะที่ระดับส่วนแบ่งการตลาดของอินเวสทรีขยับสูงแตะ 60% จาก 29% ณ สิ้นปีก่อน โดยหลักๆจากภาพรวมตลาดที่ลดลง

"ตลาดการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ของเอสเอ็มอีก็ชะลอตัวอยู่ในทิศทางเดียวกับการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีของแบงก์ที่มีต้วเลขรวมติดลบต่อเนื่องมา 11 ไตรมาสแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่องมาอย่างเนื่อง และยิ่งหนักขึ้นเมื่อเจอกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำ มีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่อินเวสทรีเองไม่ได้อยู่สถานะคู่แข่งกับแบงก์ เราเป็นแค่ตัวเสริมเล็กๆ ซึ่งหากแบงก์ปล่อยเอสเอ็มอีก็ยังไม่พ้นกับดักสภาพคล่องตรงนี้ ขณะเดียวกันการที่เราได้ไลน์เซ่นส์ ใบอนุญาตผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้มาก็จะช่วยในเรื่องของความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น เนื่องจากสามารถออกเป็นหุ้นกู้ที่มีหลักประกันได้ รวมถึงการดูแลติดตามหนี้ได้อย่างรวดเร็วหากเกิดการผิดนัดชำระหนี้ด้วย"

นายวรกร สิริจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า เราใช้เวลาในการขอใบอนุญาตนี้ 7 เดือนซึ่งถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้กรอบบริหารความเสี่ยงของแพลตฟอร์มสมบูรณ์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ปลดล็อกให้เราสามารถเสนอขาย ‘หุ้นกู้ Crowdfunding มีหลักประกัน’ ได้เป็นครั้งแรกในไทยด้วย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนโดยตรง พร้อมกันนั้น อินเวสทรียังมีแผนต่อยอดไปสู่ Tokenization โดยเตรียมนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาปลดล็อกข้อจำกัดเดิมของตลาดหุ้นกู้ ด้วยการออกโทเคนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง เพื่อลดต้นทุนและเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงมากขึ้น เนื่องจากลดวงเงินการลงทุนขั้นต่ำลงได้อีกจากปัจจุบันที่ 50,000 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการการหารือขั้นต้น

นางสาวณัฐสุดากล่าวในตอนท้ายว่า ปัญหาของเอสเอ็มอีนั้นประเด็นเชิงโครงสร้างที่ต้องเร่งอัปเกรดคือ "ข้อมูล"และ"กลไกค้ำประกัน"เพื่อให้ทุนไหลไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพได้รวดเร็วขึ้น โดยหากเครดิตบูโรสามารถนำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาใช้ประเมินความสามารถในการชำระเงิน เช่น ข้อมูลธุรกรรมจริงจากคู่ค้าหรือระบบดิจิทัล จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่ดีแต่ไร้หลักฐานแบบเดิมเข้าถึงทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการค้ำประกันสินเชื่อ (Credit Guarantee)ให้ครอบคลุมหุ้นกู้ และการมีกลไก ปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน โดยการทบทวน กฎเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ทางภาษี ให้เอื้อต่อการระดมทุน เพื่อให้ต้นทุนทางการเงินของSMEเสถียรมากขึ้นในระยะยาวอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น