xs
xsm
sm
md
lg

"ขุมทรัพย์ธุรกิจสีเทาตระกูล 'ฮุน'! 'ฮุน โต' เขย่ากัมพูชา...เมื่ออำนาจเศรษฐกิจใต้ดินถูกแฉ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลานชายอดีตผู้นำ “ฮุน เซน” และลูกพี่ลูกน้องของนายกฯ ฮุน มาเนต ถูกจับตาในฐานะตัวละครเศรษฐกิจคนสำคัญของตระกูลฮุน แม้ไร้ตำแหน่งการเมืองแต่ทรงอิทธิพลผ่าน “Huione Group” อาณาจักรการเงิน คริปโต และอสังหาฯ ที่ถูกกล่าวหาว่าโยงเครือข่ายสแกมไซเบอร์และฟอกเงินระดับภูมิภาค กรณีนี้ไม่เพียงสะเทือนเสถียรภาพทางการเงิน แต่ยังท้าทายความน่าเชื่อถือของกัมพูชาในสายตานานาชาติ

1. ฮุน โต คือใคร? ทำไมถึงกลายเป็นผู้กุมอำนาจเศรษฐกิจเงามืดแห่งตระกูลฮุน

"ฮุน โต" (Hun To) หลานชายผู้ทรงอิทธิพลของอดีตผู้นำกัมพูชาและลูกพี่ลูกน้องของนายกฯ คนปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงบารมีจากตระกูล "ฮุน" แต่เขายังมีอาณาจักรธุรกิจสีเทาที่ซับซ้อนและเปราะบาง! ท่ามกลางการแฉของสื่อต่างชาติและรายงานจาก "FinCEN" ของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าอาณาจักร "Huione Group" ของเขาคือเส้นทางฟอกเงินระดับโลก ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ได้กระทบแค่ภาพลักษณ์ แต่ยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจกัมพูชาทั้งหมด!

ฮุน มาเนต (คนกลาง ลูกชายคนโตของฮุนเซน) และ ฮุน โต ลูกพี่ลูกน้องของ นายกฯ ฮุน มาเนต (ขวา)
แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองโดยตรงในรัฐบาลกัมพูชา แต่ชื่อของ ฮุน โต (Hun To) หลานชายของ อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และลูกพี่ลูกน้องของ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กลับมีบทบาทสำคัญในฐานะ "ผู้เล่นคนสำคัญ" ในแวดวงเศรษฐกิจและธุรกิจที่เชื่อมโยงกับตระกูล "ฮุน" อย่างแยกไม่ออก โดยเฉพาะในฐานะหัวหอกของ Huione Group กลุ่มธุรกิจที่มีขอบข่ายตั้งแต่การเงินดิจิทัล คริปโต ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์

อาณาจักรธุรกิจ : จากกระเป๋าเงินสู่เครือข่ายฟอกเงินใต้ดินขนาดใหญ่

Huione Group ดำเนินธุรกิจผ่านหลายบริษัทที่ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่

1.Huione Pay ซึ่งให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และคริปโต และ
2.Huione Guarantee บริการเอสโครว์ผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ที่ถูกกล่าวหาว่ากลายเป็นเครื่องมือสำคัญของเครือข่ายสแกมไซเบอร์

นอกเหนือจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในการลงทุนในธุรกิจที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น เหมืองแร่ อสังหาริมทรัพย์ และคาสิโนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ใต้การกำกับดูแลของตระกูลมาโดยตลอด

สาแหรกทายาทสืบสันดานในตระกูลฮุน
เงาธุรกิจสีเทาดำศูนย์กลางอาชญากรรมเศรษฐกิจในระดับนานาชาติ

เส้นทางธุรกิจของ ฮุน โต ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เขาถูกตั้งข้อสังเกตและถูกกล่าวหาอย่างหนักว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบ "pig-butchering" หรือการหลอกให้เหยื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่มีอยู่จริง และการฟอกเงินข้ามชาติผ่านแพลตฟอร์มในเครือ Huione Group โดยแม้ว่าเขาจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ก็ต้องเผชิญกับการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากสื่อชั้นนำของโลกอย่าง The Australian รวมถึงถูกเพ่งเล็งจากสำนักงานบังคับใช้กฎหมายทางการเงินของสหรัฐฯ หรือ FinCEN ที่ได้ขึ้นบัญชี Huione Group ว่าเป็นหนึ่งในช่องทางฟอกเงินรายใหญ่

เส้นทางมรสุม ไทม์ไลน์สู่ความเสื่อมถอย

มรสุมชีวิตของ ฮุน โต ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่มีเบาะแสมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) เขาเคยตกเป็นเป้าการสอบสวนของทางการออสเตรเลียในคดีลักลอบนำเข้าเฮโรอีน แต่สุดท้ายก็ไม่ถูกตั้งข้อหาใด ๆ อย่างไรก็ตาม ปัญหาทางกฎหมายยังคงตามหลอกหลอนเขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) นักธุรกิจ เฮง สิทธี (Heng Sithy) ได้ออกมากล่าวหาเขาว่าฉ้อโกงเงินกว่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ

การตีแผ่อาณาจักรธุรกิจของกระกูลฮุนซึ่งเบื้องหลังดำเนินการโดย ฮุน โต : ที่มา The New York Times
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 เมื่อธนาคารกลางกัมพูชาได้สั่งถอนใบอนุญาต Huione Pay ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเขา และสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568 เมื่อ FinCEN ของสหรัฐฯ ออกรายงานที่ระบุว่า Huione Group ฟอกเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตามมาด้วยการที่ Telegram ปิดช่องทางการให้บริการของ Huione Guarantee ทันที

ผลกระทบความน่าเชื่อถือที่กำลังกัดกร่อนกัมพูชา

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัวของ ฮุน โต แต่ได้ส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างต่อประเทศกัมพูชาในหลายมิติ ได้แก่

1.ด้านการเงิน : การระบุชื่อ Huione Group ว่าเป็นช่องทางฟอกเงิน ทำให้ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโตในกัมพูชาที่เคยเชื่อมโยงกับบริษัทต้องถูกกีดกันออกจากระบบการเงินโลก

2.ด้านภาพลักษณ์ : ความโปร่งใสของระบบเศรษฐกิจและการบังคับใช้กฎหมายของกัมพูชากำลังถูกตั้งคำถามอย่างหนักจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนในระยะยาว

3.ด้านการเมือง : กรณีนี้เป็นแรงกดดันอย่างหนักต่อรัฐบาล ฮุน มาเนต ที่ต้องเลือกระหว่างการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากชาติตะวันตกกับการปกป้องเครือญาติของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดีแม้ว่าบทบาทของ "ฮุน โต" สะท้อนให้เห็นว่า อิทธิพลของตระกูล "ฮุน" ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในแวดวงการเมือง แต่ยังขยายไปถึงอาณาจักรธุรกิจใต้ดินที่ซับซ้อน ซึ่งการเปิดโปงในระดับนานาชาติครั้งนี้กำลังส่งสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจกัมพูชา และความน่าเชื่อถือในสายตาของประชาคมโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น