xs
xsm
sm
md
lg

กูรู ประเมินงบ CPAXT โค้ง2 กำไรโต 8-11%เชียร์ซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



4 โบรกเกอร์ ประเมิน งบไตรมาส 2/68 CPAXT มีกำไร 2.3-2.4 พันลบ. เติบโต 6-11% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หลังกำไรดีจากการขยายสาขา - ควบคุมต้นทุน หนุนอัตราการทำกำไรดีขึ้น ส่วนใหญ่เชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 25-32 บาท แม้บางโบรกฯหั่นเป้าราคาเป้าหมาย- กำไรลง แต่เชื่อ ผลงานได้ผลประโยชน์ที่เสริมกัน ทั้งการขยาย omni-channel - ยอดขายสินค้าแบรนด์ตัวเอง ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท

ทิสโก้ ชี้ กำไรดีจากการขยายสาขา-คุมต้นทุน ให้เป้า 32 บาท

ฝ่ายวิจัย บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT จะรายงานกำไรสุทธิที่ 2.36 พันล้านบาท (+9% YoY / -11% QoQ) โดยผลการดำเนินงาน YoY ได้รับการสนับสนุนจากการขยายสาขา การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมคงที่ทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก สะท้อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ช้าลงในประเทศไทย และแรงกดดันจากยอดขายสินค้าเกี่ยวกับฤดูร้อนที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ตามการเติบโตของกำไรยังคงได้รับแรงขับเคลื่อนจากส่วนผสมของอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น และการจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอย่างมีวินัย 

คาดจะรายงานการเติบโตของรายได้2.2% ได้รับการสนับสนุนจากทั้งส่วนค้าส่ง (+2.3%) และส่วนค้าปลีก (+2.1%) ขับเคลื่อนด้วยการขยายสาขาใน ขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมคงที่ ในระหว่างไตรมาสนี้ ส่วนค้าส่งเพิ่มสาขา Eco Plus 3 สาขา ทำให้รวมทั้งสิ้น 179 สาขา (+9 YoY) โลตัสมินิ มีการเพิ่มสาขาสุทธิ 12 สาขา ทำให้รวมทั้งสิ้น 2,099 สาขา (+51 YoY) ในขณะที่ไม่มีการเปิดสาขาขนาดใหญ่ใหม่ 

สำหรับส่วนธุรกิจต่างประเทศกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นในทั้งสามประเทศหลักในธุรกิจค้าส่ง ในมาเลเซีย โลตัสมีการเติบโตของรายได้ 6% ขับเคลื่อนด้วยการเติบโตของยอดขายร้านเดิมที่แข็งแกร่งตามมาจากการอุดหนุนของรัฐบาลสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสด (MYR 100-200 ต่อคน) คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้น 20bps ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจค้าส่งจากส่วนผสมของอัตรากำไรที่ดีขึ้นและการปรับปรุงทางบัญชี ซึ่งเป็นการปรับปรุงเดียวกันที่รายงานใน 1Q25 เกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย 

ยังคงคำแนะนำ“ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 32 บาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผลประโยชน์ที่เสริมกัน การขยาย omni-channel และยอดขายสินค้าแบรนด์ตัวเองที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะขับเคลื่อนทั้งการเติบโตของยอดขายร้านเดิม และการปรับปรุงอัตรากำไรขั้นต้น

บัวหลวง คาดกำไรโต 8% ปรับราคาเป้าหมายเป็น 25 บาท

บล.บัวหลวง คาดว่า กำไรหลัก 2Q25 ของ CPAXT โต 8% YoY แตะ 2.35 พันล้านบาท หนุนจาก GM ที่ดีขึ้นของ Makro และการควบคุมค่าใช้จ่ายของ Lotus’s ในขณะที่ฝั่ง SSS คาดแค่ทรงตัว เพราะอากาศร้อนช้าและกำลังซื้ออ่อนแอ โดยปรับลดประมาณการกำไรปี 2025–27 ลงเล็กน้อย 4-5% จากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในกลุ่มสินค้าจำเป็น แต่ยังคาดกำไรปี 2025 โตได้ 5% จาก synergy ที่จะเริ่มเด่นชัดในช่วง 2H25 

ทั้งนี้แม้ถูกปรับลดคาดการณ์แต่ CPAXT ยังมีแนวโน้มกำไรปีนี้โตดีกว่าหุ้นค้าปลีกรายอื่นเกือบทั้งหมด โดยเป็นรองเพียง CPALL จุดเด่น CPAXT อยู่ที่กลยุทธ์เน้นสินค้าตราตนเองและการเก็บเกี่ยว synergy อย่างต่อเนื่อง คงแนะนำ ซื้อ แต่ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 25 บาท

ดาโอ หั่นกำไร2025/26 ลง -5.7 -5.9% แต่ยังเชียร์ซื้อ 

ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประมาณการกำไร 2Q25 ที่ 2.4 พันล้านบาท ขยายตัว +11% YoY แต่หดตัว -9% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล โดยมีปัจจัยสำคัญคือ คาดรายได้ที่ 1.27 แสนล้านบาท ขยายตัว +0.9% YoY แต่หดตัว -1.5% QoQ จากการขยายสาขา โดยคาด SSSG ใน 2Q25E ทรงตัว จากผลกระทบหลักทางฤดูกาล โดย Lotus’s ประเทศไทยได้รับผลกระทบมากกว่าจากกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มทำความเย็นที่มีสัดส่วนเยอะกว่า ทำให้สินค้ากลุ่มเกี่ยวกับความเย็นมียอดขายลดลง 

คาดGPM เฉลี่ยรวมที่ 16.2% ขยายตัวราว +10-15 bps YoY จากคาดการขยายตัว GPM ของธุรกิจค้าส่งที่ราว +40 bps YoY ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกคาดเห็น GPM ที่หดตัว และรายได้ค่าเช่าทรงตัว โดย Occ rate ยังอยู่ในระดับสูงและ margin ขยายตัวได้จากการควบคุมค่าใช้จ่าย 

ปรับประมาณการกำไรปี2025E/26E ลง -5.7%/-5.9% อยู่ที่ 1.19/1.40 หมื่นล้านบาท โต +12%/+18% YoY จากเดิมที่ 1.26/1.49 หมื่นล้านบาท จากคาด SSSG ใน 2H25E อยู่ในระดับทรงตัวหรือเป็นบวกได้เล็กน้อยจากสภาพเศรษฐกิจที่กดดัน
คงคำแนะนำ “ซื้อ” และมีการปรับราคาเป้าหมายลงอยู่ที่ 25 บาท จากเดิมที่ 30 บาท
หยวนต้า ปรับเป้าหมายราคาเป็น 27 บาท

ส่วนบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คาดกำไรปกติ 2Q25 ที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลง 11% QoQ ปัจจัยฤดูกาลกดดันยอดขายและ GPM ให้ปรับตัวลง ขณะที่เทียบ YoY คาดกำไรปกติเติบโต 8% แม้ SSSG ทำได้เพียงทรงตัวแต่รายได้เติบโตจากการขยายสาขา และมีอัตราการทำกำไรดีขึ้น

แนวโน้ม 3Q25 คาดลดลง QoQ แต่ยังเติบโต YoY ได้ แม้ SSSG อาจเติบโตไม่มากในช่วงฤดูฝน แต่คาดจะได้ Synergies หลังควบรวมช่วยผลักดันกำไรให้เติบโต

จากแนวโน้มยอดขายที่เติบโตได้จำกัดตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เราปรับประมาณการปี2025-2026 ลงปีละ 4-5% เป็น 1.2 หมื่นลบ. (+8% YoY) และ 1.3 หมื่นลบ. (+11% YoY) ตามลำดับ สาเหตุหลักจากการปรับลด SSSG และ GPM ของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกลง
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ปรับราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ใหม่เป็น 27 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น