xs
xsm
sm
md
lg

กำไรแบงก์ 6 เดือนโต 3.9% สินเชื่อ-รายได้หลักชะลอ-คุมเข้มคุณภาพหนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายงานผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ในระบบ11แห่งประกอบด้วย บริษัทเอสซีบีเอกซ์(SCB),ธนาคารกสิกรไทย(KBANK),ธนาคารกรุงเทพ(BBL),ธนาคารกรุงไทย(KTB),ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY),ธนาคารทหารไทยธนชาต(TTB),ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป(TISCO),กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร(KKP),ธนาคารไทยเครดิต(CREDIT),ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT),แอชเอชเอฟจีไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป(LHFG) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 ด้วยกำไรสุทธิ 66,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,621 ล้านบาท หรือเท่ากับ 2.51%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้แก่ SCB ทำกำไรสุทธิสูงสุดที่ 12,786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.68%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน , KBANK แจ้งกำไรสุทธิ 12,488 ล้านบาท ลดลง 3.16%, BBL กำไรสุทธิ 11,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.27%,KTB กำไรสุทธิ 11,122 ล้านบาท ลดลง 5.70%, BAY กำไรสุทธิ 8,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.05%,TTB กำไรสุทธิ 5,004 ล้านบาท ลดลง 7.21%, TISCO กำไรสุทธิ 1,643 ล้านบาท ลดลง 6.25%,KKP กำไรสุทธิ 1,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.41%, CREDIT กำไรสุทธิ 925 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8%,CIMBT กำไรสุทธิ 174 ล้านบาท ลดลง 73.95%, และ LHFG กำไรสุทธิ 550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%

สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2568 นั้น กำไรสุทธิรวม 134,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,135 ล้านบาท คิดเป็น 3.97% นำโดย SCB กำไรสุทธิ 25,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.75%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน , KBANK แจ้งกำไรสุทธิ 26,279 ล้านบาท ลดลง 0.98%, BBL กำไรสุทธิ 24,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.52%,KTB กำไรสุทธิ 22,835 ล้านบาท ลดลง 2.72%, BAY กำไรสุทธิ 15,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.49%,TTB กำไรสุทธิ 10,100 ล้านบาท ลดลง 6.19%, TISCO กำไรสุทธิ 3,286 ล้านบาท ลดลง 5.74%,KKP กำไรสุทธิ 2,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.66%, CREDIT กำไรสุทธิ 1,828 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.05%,CIMBT กำไรสุทธิ 1,012 ล้านบาท ลดลง 21.79%, และ LHFG กำไรสุทธิ 1,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.59%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสที่สองปี 2568 ของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากการบริหารจัดการให้เกิดแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่รอบคอบ ส่งผลให้การก่อตัวของสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ขณะเดียวกันบริษัทฯได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาอย่างเป็นทางการ และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการจัดตั้ง บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบและสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางความท้าทายของปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งรวมถึงความรับผิดชอบต่อลูกค้าผู้ฝากเงิน ผู้ลงทุน ที่ครอบคลุมถึงลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจด้วยการดูแลช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ทั้งการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ตลอดจนการสนับสนุนมาตรการภาครัฐอย่างเต็มที่ เช่น โครงการคุณสู้เราช่วย และมาตรการให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ รวมทั้งการส่งผ่านต้นทุนทางการเงินที่ลดลงเพื่อแบ่งเบาภาระของลูกค้า สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถดำเนินชีวิต และธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนการส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้น ผ่านการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 และการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Productivity) อย่างต่อเนื่องภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ด้วยความระมัดระวัง พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน โดยให้ ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ สนับสนุนการเร่ง ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย เฟส2” ที่ได้ปรับเงื่อนไข ให้สามารถช่วยเหลือ ลูกหนี้รายย่อยและ SME กลุ่มเปราะบางได้มากขึ้น ครอบคลุมกลุ่มที่เป็น NPL และกลุ่มเปราะบางที่ยัง ไม่เป็น NPL แต่มีสัญญาณอ่อนแอ ให้สามารถประคองตัว รักษาสินทรัพย์สำคัญกับความมั่นคงของครอบครัว ป้องกันไม่ให้ปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งเพิ่มเติมจากมาตรการอื่นๆ ที่ธนาคารดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งการลดภาระทางการเงินให้ลูกค้า ผ่านสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน และ สินเชื่อกรุงไทยรวมหนี้ (ภาคประชาชน) สินเชื่อกรุงไทยบ้านแลกเงิน พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ทันสมัย สนับสนุนลูกค้าปรับตัว ฟื้นฟูกิจการ สร้างโอกาสจากความท้าทาย และเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจยั่งยืนตามแนวทาง ESG รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่เป็นธรรมอย่างทั่วถึง โดยยึดมั่นในแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก อย่างไรก็ดีจากการที่ทีทีบีเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบมาโดยตลอด จึงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ และสามารถดำเนินการตามแผนงานด้านต่าง ๆ ได้ตามเป้าหมาย สิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ ยังคงเป็นเรื่องของการให้ความช่วยเหลือลูกค้า การเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นตามแผนบริหารส่วนทุน และการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ให้มีเสถียรภาพท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในระบบเศรษฐกิจ

สำหรับช่วงที่เหลือของปี ธนาคารจะยังคงเน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพและความแข็งแกร่งทางการเงินควบคู่กับการบริหารจัดการด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการกำไร ทั้งนี้ ด้วยฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถคงอัตราการจ่ายเงินปันผลในระดับสูงได้แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดก็ตาม ขณะที่ประเมินว่าโครงการซื้อหุ้นคืน 3 ปี วงเงิน 21,000 ล้านบาท จะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดทุนที่มีต่อมูลค่าของผู้ถือหุ้นได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น