ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" เข้าตรวจค้น 5 จุดในจังหวัดชลบุรี พบกลุ่มชาวจีนเทาใช้คริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยเช่า รับชำระค่าบริการผ่าน USDT และสกุลเงินต่างประเทศ ตำรวจยึดหลักฐานสำคัญ พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินประเทศ
วานนี้ (27 มกราคม 2568) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (รอง ผบก.ปอศ.) รักษาราชการแทนผู้บังคับการปอศ. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล, พ.ต.ท.ประภาส วังงาม, พ.ต.ต.รัฐชิน เจริญรัมย์ สารวัตรใหญ่ กองกำกับการ 3 บก.ปอศ. (สว.กก.3 บก.ปอศ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.3 บก.ปอศ. เปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี Operation Dragon Slayer" เพื่อตรวจค้น 5 จุดในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
สืบเนื่องจากนโยบายกระทรวงการคลังสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี
ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นจากนโยบายของกระทรวงการคลังที่สนับสนุนให้ประเทศไทยใช้บริการคริปโตเคอร์เรนซีในการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีเป้าหมายเริ่มทดลองใช้ในปี 2568 อย่างไรก็ตาม บก.ปอศ. ได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการลักลอบทำธุรกิจนอกระบบ จึงได้มีการสืบสวนและตรวจสอบผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มจีนเทาแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ซื้ออสังหาฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลชาวจีนที่ใช้ช่องทางแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกลุ่มจีนเทา เพื่อนำเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบบริษัท โดยมีการถือครองทรัพย์สินในนามนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลเหล่านี้ให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและจัดแพ็กเกจท่องเที่ยว หลังจากการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะมีการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาพักอาศัยในประเทศไทย โดยรับชำระค่าบริการผ่านหลายรูปแบบ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล (USDT), สกุลเงินต่างประเทศ หรือเงินสด
ขยายผลการปฏิบัติการบุกค้น 5 จุดพื้นที่สำคัญ
ในการดำเนินการภายใต้ปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี Operation Dragon Slayer" เจ้าหน้าที่พบว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนพักอาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังพบบ้านพลูวิลล่าที่กลุ่มชาวจีนซื้อมาเพื่อปรับปรุงเป็นธุรกิจเช่าท่องเที่ยว โดยมูลค่าบริษัทที่เกี่ยวข้องรวมอยู่ที่กว่า 20 ล้านบาท
จากการตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคลให้กับกลุ่มชาวจีน พบว่าเบื้องต้นมีการจดทะเบียนนิติบุคคลในลักษณะดังกล่าวทั้งหมดกว่า 40 แห่งในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและเตรียมขยายผลในการดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิดต่อไป
มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของบก.ปอศ. ในการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลักลอบใช้คริปโตเคอร์เรนซีและช่องทางอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง