ปลัดคลังเผยมีหุ้นจำนวน 20 ตัว ที่ สคร.เล็งโละออกจากพอร์ตกระทรวงการคลัง แบ่งเป็นหุ้นในตลาดประมาณ 12 ตัว และนอกตลาดประมาณ 8 ตัว รอ รมว.คลังเคาะก่อนชงเข้า ครม.พิจารณาอนุมัติในเดือน ธ.ค.นี้
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีการบริหารจัดการพอร์ตหุ้นในมือทั้งหมดกว่า 140 ตัว โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดูแลในภาพรวมทั้งหมด คาดว่าจะมีหุ้นจำนวน 20 ตัวที่ต้องขายออก ซึ่งใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว อยู่ที่วิธีการ ซึ่ง สคร.ได้จัดกลุ่มหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดยในเดือน ธ.ค.จะต้องนำรายละเอียดมาเสนอนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก่อน แล้วจึงชงเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนกรณีหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ว่าจะดำเนินการซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อให้การบินไทยกลับมาคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่หากถามในฐานะปลัดกระทรวงการคลังมองว่า หุ้น THAI ไม่เหมาะที่จะกลับมาเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจ เพราะการเป็นเอกชนจะมีความคล่องตัวสูงกว่า ซึ่งธุรกิจสายการบินเชิงพาณิชย์การเป็นรัฐวิสาหกิจน่าจะไม่ตอบโจทย์
แหล่งข่าวระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ชี้แจงว่า พอร์ตการถือหุ้นของกระทรวงการคลังในขณะนี้ ที่มีแนวโน้มอาจพิจารณาขายหุ้นออกจากพอร์ตการลงทุนของ จำนวน 20 ตัว ที่ถือตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กำลังหารือในรายละเอียดขั้นสุดท้าย ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อขอมติ ครม.จำหน่ายหุ้นออก
ที่ผ่านมาได้จัดประชุมคณะกรรมการกำกับไปแล้ว 2 ครั้ง ถ้าหากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังไม่ติดใจอะไร จะจัดประชุมอีก 1 ครั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย.2567 นี้ เพื่อทบทวนว่ายังคงให้ถือหุ้นอยู่หรือไม่ หลังจากนั้น จึงจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ได้ทันที โดยหุ้นทั้งหมดมีหลายหมวด ยังต้องแยกนโยบายการขายหุ้นว่า บางตัวอยู่ในนโยบายการขาย และบางตัวอยู่ระหว่างรอการขาย (NPA) ต้องจัดกลุ่มอีกทีหนึ่ง ส่วนหุ้นที่กระทรวงการคลังถือในธนาคารต้องนำเข้าคณะกรรมการกำกับอีกครั้งหนึ่งก่อน เนื่องจากที่ผ่านมา สมัยก่อนทาง สคร.รับหุ้นมาทั้งหมด ไม่ได้มีการวางเกณฑ์ไว้รองรับ แต่ต่อไปถ้าจะถือครองหุ้นจะต้องมีเกณฑ์อะไรรองรับว่าเป็นประโยชน์ต่อรัฐหรือไม่ ช่วยสนับสนุนนโยบายการเงินและการคลังหรือไม่ เพื่อวางเกณฑ์เสร็จแล้ว จึงค่อยมาดูหุ้นเป็นรายตัวต่อไป
สำหรับวิธีการขายหุ้นออกจากพอร์ตของ สคร.มีหลายวิธี โดยแยกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ ดูระเบียบข้อบังคับของบริษัทนั้นๆ หุ้นตัวนั้นว่าจะต้องมีมติของบริษัทออกมาก่อนหรือไม่ว่าจะต้องขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมหรือสามารถขายให้นักลงทุนคนอื่นได้
