สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศเตือนผู้ถือหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ขอให้ศึกษาข้อมูลและเข้าร่วมประชุมใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เพื่อลงมติ 2 วาระสำคัญ
2 วาระแรกเกี่ยวกับการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ บริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งจะชำระค่าตอบแทนด้วยการออก และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SABUY โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการเข้าทำรายการลงทุนทั้ง 2 บริษัท
SABUY จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ โดยหุ้นสามัญเพิ่มทุนส่วนหนึ่งจำนวน 360 ล้านหุ้น จะเสนอขายให้บริษัท โฮลดิ้ง แอล โค จำกัด เพื่อจ่ายชำระค่าหุ้นสามัญของ 2 บริษัทที่จะลงทุน ซึ่งที่ปรึกษาการเงินเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการเข้าทำรายการ เพราะไม่ได้แก้ปัญหาสภาพคล่องและไม่เป็นประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นบริษัท
ส่วนอีกวาระ การขออนุมัติออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บริษัท Insignia Holding Limited (Insignia) ซึ่ง น.ส.เกษรา โล่ห์ทองคำ ถือหุ้นร้อยละ 100 จำนวน 350 ล้านหุ้น พร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญโดยไม่คิดมูลค่า จำนวน 350 ล้านหน่วย
และออกเสนอขายหุ้นให้นายวริศ ยงสกุล จำนวน 50 ล้านหุ้น พร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญโดยไม่คิดมูลค่า จำนวน 50 ล้านหน่วย โดยมีอัตราใช้ สิทธิ 1 หน่วยต่อ 1 หุ้นสามัญ อายุ 2 ปี ราคาใช้สิทธิ 1.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้นบุคคลในวงจำกัด
ที่ปรึษาการเงินอิสระเห็นว่า ราคาเสนอขายหุ้นและใบสำคัญแสดงสิทธิ ตลอดจนราคาใช้สิทธิข้างต้นไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการเสนอขายในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของหุ้น แต่เนื่องจาก SABUY มีข้อจำกัดในการดำเนินกิจการ จากการมีมูลค่าหนี้สูงและอาจผิดนัดชำระหนี้และด้วยข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง จึงเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรอนุมัติรายการ เนื่องจากมีความจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อ SABUY
ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียด วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ ความเสี่ยงและผลกระทบที่จะได้รับจากการมีมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติ และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับสอบถามผู้บริหาร SABUY เพื่อให้ได้รับข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจ โดยต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย
SABUY ล้มลุกคลุกคลาน ตั้งแต่นายชูเกียรติ รุจนพรพจี อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ทยอยขายหุ้นออก จนไม่มีรายชื่อติดอันดับ 10 ผู้ถือหุ้นรายแรก หลังบริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก และมีหนี้รอการชำระจำนวนมาก ขณะที่มีปัญหาสภาพคล่อง โดยไม่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่จะเป็นเจ้าภาพการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ราคาหุ้น SABUY เคยพุ่งขึ้นไปสูงสุดกว่า 30 บาท และร่วงลงมาต่ำสุดที่ 39 สตางค์ แต่ล่าสุดวันที่ 2 ตุลาคมปิดที่ 89 สตางค์ โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยติดค้างอยู่จำนวน 23,251 ราย
การเพิ่มทุนขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด โดยเฉพาะการขายให้บริษัท Insignia Holding Limited (Insignia) ซึ่ง น ส.เกษรา โล่ห์ทองคำ ถือหุ้นร้อยละ 100 จำนวน 350 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาทพร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญโดยไม่คิดมูลค่า จำนวน 350 ล้านหน่วย และจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะทำให้ SABUY มีเจ้าภาพเป็นตัวเป็นตน มีคนที่จะถือธงนำกิจการฟื้นขึ้นมาใหม่
ที่ปรึกษาการเงินอิสระแสดงความเห็นถูกต้องแล้ว ผู้ถือหุ้นควรลงมติสนับสนุนการออกหุ้นเพิ่มทุนบริษัทที่ น.ส.เกษรา ถือหุ้นใหญ่ เพราะเป็นทางรอดของ SABUY
ถ้าไม่มีเจ้าภาพ ไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่เข้ามา ทางรอดของ SABUY ดูเหมือนจะปิดตาย
มีเจ้าภาพรายใหม่ ผู้ถือหุ้นรายย่อยยังมีโอกาสลุ้น SABUY ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่