xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนียังแกว่งแคบ! หุ้นไทยปิด -1.32 จุด รอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -1.32 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ ไร้ปัจจัยใหม่หนุนอย่างมีนัยสำคัญ และดัชนีปรับตัวขึ้นมารับปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศไปมาก ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา ชี้ความกังวลการแทรกแซงค่าเงินบาท หลังบาทแข็งค่าขึ้นมาเร็ว-แรง ยังไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,455-1,460 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,435-1,440 จุด แนะจับตาการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยในประเทศทั้งการเข้ามาของเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาเพิ่มเติม มองกรอบการลงทุนอาจแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบๆ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 กันยายน 2567 ปรับตัวลดลง -1.32 จุด หรือ -0.09% โดยปิดตลาดที่ 1,448.83 จุด มูลค่าซื้อขาย 52,891.29 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,453.54 จุด ในทางตรงกันข้ามที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,444.11 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 230 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 184 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 248 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -962.51 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +355.62 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +204.33 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +402.56 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,794.60 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,630.30 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,416.37 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,085.12 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,030.03 ล้านบาท ปิดที่ 109.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAWAD ปิดที่ 43.25บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ2.98%
2.KTC ปิดที่48.75บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.63%
3.CBG ปิดที่ 79.00บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 1.61%
4.MTCปิดที่49.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.06%
5.CPN ปิดที่ 67.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.52%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่107.00บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.28%
2.SCC ปิดที่241.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.82%
3.SAPPE ปิดที่70.25บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.40%
4.SCB ปิดที่109.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.91%
5.PTTEP ปิดที่131.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.76%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,999.21 จุด ลดลง -1.49 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 914.07 จุด ลดลง -1.36 จุด หรือ -0.15% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 354.42 จุด ลดลง -0.11 จุด หรือ -0.03%

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ โดยยังไร้ปัจจัยใหม่ที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างนัยสำคัญ และดัชนีปรับตัวขึ้นมารับปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศไปมาก ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมา

ขณะที่ความกังวลในเรื่องของแทรกแซงค่าเงินหลังเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเร็ว-แรง มองว่ายังไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้น ตลาดไม่ได้ตอบรับมากนัก เพราะอยู่ระหว่างรอการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมาสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดอาจแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยในประเทศทั้งการเข้ามาของเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมาเพิ่มเติม โดยมองแนวต้าน 1,455-1,460 จุด และแนวรับที่ 1,435-1,440 จุด" นายชัยพร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น