นายชาลี อัศวธีระธรรม รองผู้จัดการอาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Digital Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ได้เดินหน้าพัฒนาช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการด้านการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์มีจำนวนลูกค้า 17 ล้านราย ยอดธุรกรรมกว่า 1.5 พันล้านบาทต่อเดือน ทำให้ธนาคารต้องรองรับปริมาณข้อมูลที่จำนวนมาก รวมถึงต้องมีการบริหารและการนำไปข้อมูลไปใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในส่วนของลูกค้าและตัวธนาคารเอง โดยธนาคารได้เลือกที่จะรวมศูนย์ และควบคุม Data และ AI Asset ทั้งหมดบนแพลตฟอร์มของ Databricks Data Intelligence บน Microsoft Azure เพื่อช่วย Personalize และจัดการบริการธนาคาร AI (AI banking services)สำหรับลูกค้าหลายล้านคน
"การนำ AI เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ของธนาคารนั้น เราเห็นความชัดเจนใน 6 เรื่องด้วยกันคือ 1.การอนุมัติสินเชื่อที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพขึ้นด้วยการนำ Alternative Lending มาใช้ 2.การติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3.ช่วยในด้านการของรักษาความปลอดภัย 4.AI Cross selling ทำให้การนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้แม่นยำ ตรงความต้องการมากขึ้น 5.การนำเสนอข้อมูลต่างๆ ให้ลูกค้ากลุ่ม Wealth ได้ real time มากขึ้น และ 6.การนำ AI ใช้ในบริการอื่นๆ เช่น Call Center ช่วยลดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนให้ธนาคารได้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมา Credit Cost ของธนาคารลดลง 40-50% รวมถึงด้านรายได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน"
พร้อมกันนั้น ธนาคารยังมีแผนที่จะยกระดับ Core Banking ของธนาคารเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอต่างๆ แก่ลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลมากขึ้น รวมถึงการใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์สินเชื่ออย่างรวดเร็วและให้อัตราดอกเบี้ยตามระดับความเสี่ยงสำหรับกับลูกค้าแต่คนราย และแนวทาง ประเภทการลงทุนที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถสร้างรายได้ได้เพิ่มขึ้น มีต้นทุนที่ต่ำลง ขณะที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการต่างๆของธนาคารได้ตามความต้องการและเหมาะสมมากขึ้น สอดคล้องกับการตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 25%ในปี 2568 จากล่าสุดที่ระด้บ 14% และจากปี 2566 ที่ระดับ 3% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ
"จากเดิมที่เรานำเทคโนโลยี AI มาใช้ ก็เล็งเห็นศักยภาพที่ดีขึ้น จึงได้เดินหน้าแผนยกระดับ Core Banking ต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจให้ธนาคารในอีกหลายด้าน อย่างการอนุมัติสินเชื่อหากใช้วิธีเดิม คงมีแค่อนุมติ หรือไม่อนุมัติ แต่หากนำ AI มาใช้จะมีข้อมูลทางเลือกมาใช้ จะสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ระดับความเสี่ยงของลูกค้า เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีทั้งกับธนาคาร และลูกค้า ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนรายได้จากช่องทางดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
ด้านเซซิ ลี อึ้ง รองประธานและผู้จัดการทั่วไป Databricks (ASEAN และ Greater China)กล่าวว่า ภายใต้กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของธนาคาร Databricks จะเปิดตัว Data and AI Academy ร่วมกับ IT Academy ของธนาคารเพื่อฝึกอบรมพนักงานกว่า 1,800 คน ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวิทยาการข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI เพื่อเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี Data และ AI ให้แก่พนักงาน อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยโครงการฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้
