กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ประกาศกล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ในความผิดการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจทำให้เกิดความสำคัญผิดในฐานะการเงินหรือผลดำเนินงานของ STARK
ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และอดีตกรรมการหรืออดีตผู้บริหารบริษัทคือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และนายประกรณ์ เมฆจำเริญ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ STARK และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
การตรวจสอบของ ก.ล.ต.พบว่า ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2565-30 มกราคม 2566 STARK ได้เปิดเผยสารสนเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัดจำนวน 5,580 ล้านบาท และการจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน ทั้งที่ในช่วงเวลานั้นเงินเพิ่มทุนถูกนำออกไปใช้จ่ายจนหมดแล้ว และ STARK ไม่ได้มีกำไรสะสมและสภาพคล่องเพียงพอที่จะจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน
ข้อความที่เผยแพร่จึงเป็นการเผยแพร่ข้อความเท็จและข้อความอันอาจทำให้ประชาชนและผู้ลงทุนสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ STARK
ข้อหาล่าสุดของอดีตผู้บริหารและกรรมการ STRAK ไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าข้อหาที่ก.ล.ต.เคยกล่าวโทษไปก่อนหน้า ไม่ว่าการแต่งบัญชีงบการเงิน การทุจริตผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัท
แต่ข้อหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ไม่ได้ถูกนำมากล่าวโทษบ่อยนัก แม้บริษัทจดทะเบียนจำนวนมากจะมีพฤติกรรมเข้าข่ายการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข้อมูลที่ทำให้เกิดสำคัญผิดในฐานะการเงินหรือผลประกอบการของบริษัทก็ตาม
การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นความผิดที่ถูกบรรจุไว้ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ มานานนับสิบปีแล้ว แต่มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษทางอาญาในความผิดข้อหานี้น้อยมาก ทั้งที่มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากที่เผยแพร่ข้อความเข้าข่ายการสร้างข้อมูลเท็จ เพื่อกระตุ้นราคาหุ้นของบริษัท
ผู้บริหารจดทะเบียนจำนวนมากขยันสร้างข่าวดีให้บริษัท บางคนให้สัมภาษณ์ วาดฝันถึงแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการอย่างสวยหรูเกินจริง บางคนพูดถึงแผนการขยายการลงทุน ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่สูงเข้าบริษัท หรือคุ้ยโม้ถึงยอดขาย คุยเฟื่องถึงพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยรุกทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อปั่นราคาหุ้น
แต่เมื่อสิ่งที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนคุ้ยโม้ไว้ไม่เป็นความจริง ผลประกอบการของบริษัทไม่ได้เติบโตตามที่ประกาศ แผนการลงทุนล้มเหลวหรือเจ๊งไม่เป็นท่า ยอดขายสินค้าของบริษัทไม่เติบโต แต่กลับตกต่ำ ไม่มีพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจเข้ามาร่วมสังฆกรรม
นักลงทุนที่หลงเชื่อผู้บริหารบริษัทโดยตามแห่เข้าไปซื้อหุ้น จนเกิดความเสียหาย แต่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขี้โม้ สร้างนวนิยายแหกตานักลงทุน กลับไม่ถูกดำเนินคดีในความผิดเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หลอกลวงนักลงทุน
บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งประกาศเพิ่มทุน แจ้งวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนไว้ชัดเจน อวดอ้างถึงผลตอบแทนจากเงินเพิ่มทุนที่ฝ่ายบริหารบริษัทระดมจากผู้ถือหุ้น แต่สุดท้ายนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือนำเงินไปซื้อทรัพย์สินในราคาที่สูงเกินจริง เพื่อผ่องถ่ายไซฟ่อนเงินออก
แต่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่วางแผนปล้นเงินนักลงทุน สร้างนิยายชวนเชื่อหลอกลวง ส่วนใหญ่หลุดรอดลอยนวล พร้อมกับเงินก้อนโตที่หอบออกไป
การที่ ก.ล.ต.ย้อนกลับมาเก็บคดี STARK กล่าวโทษ 4 อดีตผู้บริหารและกรรมการบริษัท ในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ แหกตานักลงทุน สะท้อนให้เห็นว่า ก.ล.ต.กำลังใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดประเภทใด
แม้แต่การเล่นงานผู้บริหารจดทะเบียนขี้โม้ จอมแหกตา แต่งนวนิยายขายฝันหลอกลวงนักลงทุนให้หลงแห่เข้าไปเก็งกำไรหุ้น จนติด "กับดัก"
การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะความผิดการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ สร้างข่าวเท็จเพื่อปั่นราคาหุ้น คงจะกำราบผู้บริหารบริษัทขี้โม้ จอมแหกตาให้หัวหด
การปั่นหุ้นโดยกุข่าวแหกตาแมลงเม่าที่ดำเนินมาหลายสิบปีจะได้ปิดฉากลงเสียที