ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายการลงทุนธุรกิจอสังหาฯ ในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วง 10 ปีนี้ “ศุภาลัย” น่าจะเป็นหนึ่งบริษัทอสังหาฯ เบอร์ต้นๆ ที่ประสบความสำเร็จกับการออกไปลงทุนในต่างประเทศมากที่สุดอีกรายหนึ่ง โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้มีการร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และพัฒนาที่ดินจัดสรรในประเทศออสเตรเลียรวม 12 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมเฉพาะในสัดส่วนของ “ศุภาลัย” กว่า 50,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการที่เข้าไปร่วมลงทุนนั้นได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ซึ่งสะท้อนกลับมาเป็นยอดขายและรายรับรู้ให้ “ศุภาลัย” มาอย่างต่อเนื่อง
ใครจะไปคาดคิดว่าการตัดสินใจก้าวออกไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัยพ์ออสเตรีย ของศุภาลัยเมื่อ 10 ปีก่อน จะส่งผลดี และเข้ามาซัปพอร์ตผลการดำเนินงานของ “ศุภาลัย” ในปีนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงที่ตลลาดอสังหาฯ ไทยต้องประสบกับปัจจัยลบรุมเร้า จนทั้งจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิโลก และเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ตลาดอสังหาฯ ยังชะลอตัวจนถึงขณะนี้ เพราะในขณะที่ตลาดอสังหาฯไทยชะลอตัวและส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศ ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่างต้องประสบกับความท้าทายด้านยอดขายและรายได้ แต่ศุภาลัยกลับได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายอสังหาฯ จากออสเตเลีย เพราะเพียงแค่ครึ่งแรกของปี 67 มีรายได้จากอสังหาฯ ออสเตรเลียเข้ามากว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่วางไว้ โดยปีนี้ “ศุภาลัย” ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากอสังหาฯ ในออสเตรเลีย 2,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีต่อผลการดำเนินการในครึ่งปีแรกของ “ศุภาลัย” ไม่น้อยเลย
“ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน “คุณประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศุภาลัย มีนโยบายให้ขยายการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ ลดความเสี่ยง และกระจายการลงทุนในตลาดใหม่ๆ โดยในขณะนั้น “ศุภาลัย” มองว่าตลาดอสังหาฯ ในประเทศพม่า เป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ แต่ได้รับการติดต่อและแนะนำการลงทุนจาก Gersh Investment Partner Limited บริษัทที่ปรึกษาที่ดูแลการลงทุนให้ศุภาลัยในออสเตรเลีย ซึ่งแนะนำให้เข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรในปัจจุบัน โดยให้เหตุผลว่าประเทศออสเตรเลียมีเศรษฐกิจ และรัฐบาลที่มีสเถียรภาพและมั่นคง ตลาดอสังหาฯ ในออสเตรเลียเองให้ผลตอบแทนที่ดีไม่น้อยกว่าพม่า ประกอบกับในขณะนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯ ในออสเตรเลียกำลังมองหาพันธมิตรใหม่ๆ เข้าไปเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน เพราะตลาดอสังหาฯ ออสมเตรเลียได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อโครงการ จึงเป็นโอกาสให้ศุภาลัยที่กำลังมองหาตลาดใหม่ๆ ในการลงทุนได้เข้าไปจับมือเป็นพันธมิตรร่วมลงทุนพัฒนาโครงการในออสเตรเลียมาจนถึงปัจจุบัน” ดร.ประศาสน์ ตั้งมติธรรม กรรมการบริษัท บริษัท ศุภาลัย ออสเตรเลีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (Supalai Australia Holdings) ในเครือ บมจ.ศุภาลัย กล่าว
ดร.ประศาสน์ กล่าวต่อว่า “ศุภาลัย” เริ่มเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ ออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2556 โดยได้จับมือพันธมิตรธุรกิจดำเนินการพัฒนาโครงการจำนวน 12 โครงการใน 4 เมือง ได้แก่ เมือง Melbourne รัฐ Victoria เมือง Geelong รัฐ Victoria เมือง Brisbane รัฐ Queensland และเมือง Perth รัฐ Western Australia คิดเป็นมูลค่าโครงการทั้ง 12 โครงการในสัดส่วนของศุภาลัยกว่า 50,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันทั้ง 12 โครงการดังกล่าวมียอดขายสะสม ณ 30 มิ.ย.2567 มูลค่ากว่า 24,500 ล้านบาทแล้วโดยในช่วงครึ่งปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทได้มียอดขายสูงถึง 1,700 ล้านบาท เติบโตถึง 70% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2566
โดยหนึ่งในโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมคือโครงการ Arcadia Officer สามารถทำยอดขายไปได้แล้วกว่า 96% โดยโครงการ Arcadia Officer ซึ่งเป็นโครงการแรกที่บริษัทร่วมลงทุนนั้นเป็นที่ดินจัดสรรที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 800 ไร่ จำนวนแปลงที่ดินจัดสรรราว 1,800 แปลง รวมมูลค่าโครงการ 551 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยศุภาลัยถือหุ้นในสัดส่วน 25% เป็นโครงการที่มีสภาพแวดล้อมสมบูรณ์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครอบครัน เช่น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ โรงเรียนประถม-มัธยมศึกษา สนามกีฬาอเนกประสงค์และสถานีรถไฟใกล้โครงการ 2 สถานี อีกทั้งยังได้รับรางวัล 2023 UDIA Victoria Master-planned CommunitiesจากUrban Development Institute of Australia (UDIA) ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในปี 2568 นี้
ล่าสุด ในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา Supalai Australia Holdings ได้เข้าร่วมลงทุนกับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Stockland Corporation Ltd หนึ่งในบริษัทจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียจัดตั้งเป็นกิจการร่วมค้าใหม่ภายใต้ชื่อ "SSRCP HoldCo Pty Ltd" และมีการลงนามในสัญญากิจการร่วมค้าเพื่อลงทุนในโครงการอสังหาฯ ในประเทศออสเตรเลียมูลค่ารวม 1,063 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 25,300 ล้านบาท และได้เตรียมดำเนินการพัฒนาโครงการอีกจำนวน 12 โครงการใหม่ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเมืองที่ศุภาลัยไม่เคยขยายตลาดมาก่อนคือ ซิดนีย์และวูลลองกองในรัฐนิวเซาท์เวลล์ โดยคิดเป็นมูลค่าโครงการทั้ง 12 โครงการในสัดส่วนของศุภาลัย 5,785 ล้านเหรียญออสเตรเลียหรือกว่า 137,700 ล้านบาท
นายโจเซฟ เกิร์ส (Joseph Gersh) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Gersh Investment Partners Limited ที่ปรึกษาที่ดูแลการลงทุนให้ศุภาลัยในออสเตรเลีย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในออสเตรเลียในแต่ละรัฐนั้นมีความแตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมๆ แล้วถือว่ามีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี เพราะตลาดอสังหาฯ ในออสเตรเลียนั้น แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเข้มงวดด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยและกำลังซื้อผู้บริโภค แต่ยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตนเองจากภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อไม่สูง หากตัดสินใจซื้อบ้านระดับราคาไม่เกิน 800,000 เหรียญออสเตรเลียในช่วงมาตรการจะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้กว่า 30%
นอกจากนี้ ยังได้รับมปัจจัยบวกจากตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อเช่า ซึ่งมีทั้งกลุ่มผู้เช่าที่เป็นนักท่องเที่ยว คนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในออสเตรเลีย นักเรียน-นักศึกษาต่างชาติที่เข้ามาศึกษาต่อ รวมถึงแรงงานที่เข้ามาทำงานในออสเตรเลีย ทำให้ซัปพลายที่มีในตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ซัปพลายใหม่ยังมีการขยายตัวเพราะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการของภาครัฐ
ด้าน นายอธิป พีชานนท์ กรรมการบริษัท บริษัท ศุภาลัย ออสเตรเลีย โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า จากการลงทุนอสังหาฯ ใน ออสเตรเลียต่อเนื่อง 10 ปี ศุภาลัยมีผลงานโดดเด่นในตลาดอสังหาฯ ออสเตรเลีย ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตและความมั่นคงของบริษัทออสเตรเลียเป็นตลาดที่น่าสนใจด้วยเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์และกำลังซื้อสูง พร้อมกับการอพยพของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าเงินออสเตรเลียที่เสถียรเพิ่มความมั่นใจในการลงทุน
“บมจ.ศุภาลัยได้อนุมัติให้มีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเป็น 25% จากเดิมที่มีสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศอยู่ที่ 20% ซึ่งโครงการใหม่ที่ “ศุภาลัย ออสเตรเลีย โฮลดิ้ง” เตรียมดำเนินการพัฒนาโครงการอีก 12 โครงการใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญของออสเตรเลียร่วมกับ Stockland Communities นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตจากรัฐบาลออสเตรเลียอยู่คาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะได้รับการอนุมัติจากรับบาลออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้ บมจ.ศุภาลัยมีรายได้ก้อนใหญ่เข้ามาในทันที และส่งผลดีต่อผลกระประกอบการของศุภาลัยในปีนี้เนื่องจากโครงการใหม่ทั้ง 12 โครงการที่อยู่ระหว่างการขออนุมัติร่วมทุนจากรัฐบาลออสเตรเลียนั้นเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินงานไปแล้วและอยู่ระหว่างการขายหากได้รับอนุมัติให้ร่วมทุนตามแผนจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในทันที”
นายอธิป กล่าวการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในออสเตรเลียแม้จะมีต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่สูง เนื่องจากการก่อสร้างและดำเนินงานทุกอย่างต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของการปกครองท้องถิ่นหรือเทศบาลอย่างเคร่งครัด แต่ผลตอบแทนที่ได้คุ้มค่าแม้จะต้องลงทุนมากขึ้น เพราะในบางพื้นที่การขออนุญาตจัดสรรโครงการอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบางอย่าง ต่อชุมชน หรือแหล่งน้ำ แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ หากต้องการพัฒนาโครงการที่ดินจัดสรรจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดของเทศบาล เช่น ให้โครงการสร้างกำแพงกันเสียงรบกวนจากการจราจรทางหลวง ให้สร้างเขื่อนขนาดเล็กป้องกันการปะปนของน้ำใช้และแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือสร้างทางเดินสัตว์ หรือก่อสร้างสาธารณูปโภคที่เป็นประโยชน์ให้ชุมชนซึ่งอาจทำให้ใช้งบลงทุนที่สูง แต่ข้อดีคือ งบลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภคสาธารณูปการต่างๆ ตามที่เทศบาลกำหนดนั้นบริษัทสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ซึ่งการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ ศุภาลัย และ บริษัทพันธมิตรธุรกิจต่างมีความคล้ายคลึงกันในด้านความเป็นมืออาชีพ (Professionalism) ความถูกต้องทางกฎหมาย (Legality) จรรยาบรรณทางธุรกิจ (Business Integrity) ความน่าเชื่อถือ
(Trustworthiness) ความถูกต้องดีงาม (Righteousness) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดีและเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างยั่งยืน เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียยังคงเติบโตในทิศทางที่ดี ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง และเศรษฐกิจมีความมั่นคงคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้บริษัทในอนาคต
“สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศออสเตรเลียแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.การพัฒนาโครงการจัดสรรในรูปแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวนเฮาส์ และคอนโดมิเนียมซึ่งผู้ประกอบการจะลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภค อาคารและบ้านทั้งหมดแล้วขายให้ลูกค้า 2.การพัฒนาโครงการที่ดินจัดสรรพร้อมวางระบบสาธารณูปโภคขายให้ลูกค้าในทำเลศักยภาพ โดยรูปแบบที่สองนี้ลูกค้าจะสามารถเลือกแปลงที่ดินพร้อมสาธารณูปโภคในผังโครงการที่ดินจัดสรรได้ตามความต้องการและเลือกทำสัญญาจ้างสร้างบ้านบนที่ดินกับบริษัทรับสร้างบ้านให้เข้ามาก่อสร้างบ้านให้ในที่ดินของตนเอง ซึ่งการร่วมทุนของศุภาลัยในออสเตรเลียมีทั้ง 2 รูปแบบแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมทุนพัฒนาโครงการที่ดินจัดสรรมากกว่า เนื่องจากโครงการในรูปแบบที่สองนี้เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในออสเตรเลีย”
