หุ้นไทยปิดตลาดพุ่งร้อนแรงปิด +38.79 จุด ยืนเหนือ 1,400 จุด นักวิเคราะห์มองอานิสงส์หลักมาจากปัจจัยบวก 3 ประการ ทั้งความชัดเจนของกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มลงทุนในเดือน ต.ค. เป็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นราว 1.0-1.5 แสนล้านบาท ธีมการลงทุนของตลาดโลกจากกลุ่ม Growth Stock มาเป็น Value Stock และการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,444 จุด แนวรับที่ 1,390 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 5 ก.ย.2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า +38.79 จุด หรือ +2.84% โดยปิดตลาดที่ 1,404.28 จุด โดยมูลค่าซื้อขายกว่า 81,764.85 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นแรง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,406.49 จุด ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,371.49 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 435 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 135 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 102 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -10,016.52 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -1,090.60 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +7,484.60 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +3,622.53 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 4,639.97 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท เพิ่มขึ้น 19.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,100.97 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,463.79 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,252.88 ล้านบาท ปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,165.82 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,935.42 จุด เพิ่มขึ้น 59.82 จุด หรือ 3.19% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 888.75 จุด เพิ่มขึ้น 28.16 จุด หรือ 3.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 337.37 จุด เพิ่มขึ้น 6.36 จุด หรือ 1.92%
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีทะลุ 1,400 จุด มาจากปัจจัยบวก 3 ปัจจัย ได้แก่ ความชัดเจนของกองทุนวายุภักษ์ที่จะเริ่มลงทุนในเดือน ต.ค. เป็นเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นราว 1.0-1.5 แสนล้านบาท
ปัจจัยถัดมาที่เป็นการเปลี่ยนธีมการลงทุนของตลาดโลกจากกลุ่ม Growth Stock มาเป็น Value Stock ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียใต้ รวมไทย อินโดนีเซีย ที่ส่วนใหญ่เป็นหุ้น Value Stock อีกทั้ง Valuation ตลาดหุ้นไทยต่ำเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน
โดยคาดว่าแรงซื้อส่วนใหญ่วันนี้น่าจะเป็นแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และต่างชาติ ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าการแถลงนโยบายหลังการถวายสัตย์
"แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะย่อตัวเพื่อขึ้นต่อ โดยให้แนวต้านที่ 1,444 จุด แนวรับที่ 1,390 จุด" นายสรพล กล่าว
