xs
xsm
sm
md
lg

YLG เปิดสาขาดูไบ ลุยขยายตลาดจากอาเซียนสู่ตะวันออกกลาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วายแอลจีเปิดตัว YLG Gold Crest DMCC ภายใต้คำเชิญของรัฐบาล UAE มุ่งขยายตลาดจากอาเซียนสู่ตะวันออกกลางและตลาดโลก ต่อยอดเบอร์หนึ่งของอาเซียนผ่าน YLG Bullion Singapore สู่ตลาดระดับเอเชีย พร้อมเดินหน้าผลักความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านโครงการ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt & Road (BRI)" สำหรับอุตสาหกรรมทองคำและเครื่องประดับ พร้อมประกาศความเป็นผู้นำผู้ให้บริการทองคำครบวงจรบนเวที " The China Gold Congress and Expo 2024" เวทีประชุมด้านทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี กรุ๊ป จำกัด (YLG
) เปิดเผยว่า วายแอลจีได้ขยายบริการออกไปสู่ตะวันออกกลาง โดยเปิดให้บริการ YLG Gold Crest DMCC ภายใต้คำเชิญของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และล่าสุด UAE ถือเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบัน UAE จะยังไม่ใช่ตลาดหลักของทองคำ ซึ่งปัจจุบันตลาดหลักจะอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร แต่ปัจจุบัน UAE ได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมทองคำเป็นอย่างมาก ล่าสุดปริมาณการส่งออกทองคำมีสัดส่วน 29% ของการส่งออกของประเทศ ดังนั้น วายแอลจีจึงมองเห็นแนวโน้มการเติบโตและคว้าจังหวะในการเข้าไปลงทุนและพร้อมที่จะเติบโตไปอีกขั้น

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของดูไบเป็นปัจจัยสำคัญ เมืองดูไบตั้งอยู่ในตะวันออกกลางมันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ค้าและนักลงทุนจากตลาดหลักเช่นจีนและอินเดียในการทำธุรกิจกับผู้คนจากแอฟริกาและส่วนอื่นๆ ของโลก นอกจากนี้ ระบบภาษีของ UAE ยังเอื้อต่อการซื้อขายทองคำอย่างมาก" นางพวรรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ การขยายการให้บริการอย่างครอบคลุมของวายแอลจียังสอดคล้องกับแนวคิด "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง Belt & Road (BRI)" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือของการประชุม "The China Gold Congress and Expo 2024" ที่วายแอลจีเข้าร่วม เนื่องจากแนวคิดนี้ทำให้เกิดการเชื่อมต่อเอเชีย ยุโรป และแอฟริกาผ่านการพัฒนาการค้าและโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่จะนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง รวมถึงถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามบิน ซึ่งในอนาคตอาจจะทำให้สามารถเกิดการขนส่งทองคำมายังภูมิภาคเอเชียด้วยระยะเวลาที่สั้นลงและปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงอาจจะสร้างโอกาสให้เกิดศูนย์กลางตลาดทองคำแห่งใหม่ที่เอเชียก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม การขยายบริการของวายแอลจีไปสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางในครั้งนี้จึงสอดคล้องแนวคิดหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่กำลังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตาในอนาคตอันใกล้

ทั้่งนี้ วายแอลจี โดยนางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงาน "The China Gold Congress and Expo 2024" ซึ่งเป็นงานที่ได้รับการร่วมมือระหว่าง The China Gold Association เเละ The World Gold Council จัดขึ้น ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าในปี 2566 ประเทศไทยมีการบริโภคทองคำเพิ่มขึ้น 12% แตะที่ 43.2 ตัน ซึ่งตลาดทองคำของไทยนั้นถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 1 ใน 3 ของอาเซียน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาบริการซื้อขายทองคำของวายแอลจีในไทยได้พัฒนาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ประเทศไทยมีทั้งการจำหน่ายทองคำแท่ง ทองคำในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บัญชีออมทอง และการซื้อขายเศษทองผ่านระบบดิจิทัลด้วยเงินเริ่มต้นเพียงเงิน 100 บาท ด้วยการพัฒนาอย่างก้าวหน้านี้ ทำให้วายแอลจีได้ขยายการให้บริการไปสู่ผู้นำระดับอาเซียน ด้วยการเปิดบริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน สิงคโปร์ (YLG Bullion Singapore) ในปี พ.ศ.2555 ให้บริการด้านการลงทุนทองคำครบวงจรทั้งทองคำกายภาพ และแบบดิจิทัล ครอบคลุมการให้บริการลูกค้าทั่วทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากสิงคโปร์เป็นผู้นำตลาดการเงินของโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น