ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ เปิดผลงาน Q2 กวาดรายได้รวม 497.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน รับอานิสงส์ท่องเที่ยวบูม-อากาศร้อนที่เป็นฤดูกาลของการขายเครื่องดื่ม ผลตอบรับดีเกินคาด ดันยอดขายพุ่ง บอร์ดใจดีสั่งจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลนิวไฮหุ้นละ 0.20 บาท ฟากบิ๊กบอสเดินหน้ารุกตลาดครึ่งปีหลังเต็มพิกัด มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งทางตรงและทางอ้อม
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีรายได้รวม 497.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท คิดเป็น 11.18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 447.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 73.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.32 ล้านบาท หรือ 18.14% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท
ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 952.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125.98 ล้านบาท คิดเป็น 15.24% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 826.54 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.53 ล้านบาท หรือ 28.05% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 108.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในประเทศ และที่สำคัญ บริษัทพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ทั้งในประเทศและต่างประเทศช่วยผลักดันยอดขายเพิ่ม รวมไปถึงการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 120 ล้านบาท และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กันยายน 2567
“รายได้และกำไรในไตรมาส 2/2567 เติบโตดีขึ้นตามยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจัยด้านการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ช่วงอากาศร้อนที่เป็นฤดูกาลของการขายเครื่องดื่ม และความร่วมมือกับเซเว่นฯ พัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งทางตรงและทางอ้อม และคณะกรรมการบริษัทได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจทีมงานของบริษัทด้วยดีเสมอมา” นายชัชชวี กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 มีทิศทางที่สดใส โดยบริษัทมั่นใจว่าจะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% เทียบปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,727 ล้านบาท และในปีนี้เป็น “ปีแห่งการสร้างฐานของ New Growth” จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม Health and Wellness ผ่านบริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยมีแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริม ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
