xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ระดับ 36.15 แกว่งตัวในกรอบ sideways รอปัจจัยใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (24 ก.ค.) ที่ระดับ 36.15 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 36.22 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.10-36.30 บาท/ดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 36.14-36.24 บาทต่อดอลลาร์) แม้ว่าโดยรวมเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยก็ตาม แต่เงินบาทยังพอได้แรงหนุนจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำ (XAUUSD) ได้ทยอยรีบาวนด์ขึ้นจากโซนแนวรับแถว 2,380-2,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่โซนแนวต้านระยะสั้นในช่วง 2,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (โฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวมีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนับตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันก่อน) อย่างไรก็ดี เงินบาทยังคงแกว่งตัวแถวโซน 36.10-36.15 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน) ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ในจังหวะย่อตัวของผู้เล่นในตลาดบางส่วน รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันดิบ และโฟลว์ธุรกรรมขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติบางส่วนตั้งแต่ช่วงวันก่อนหน้า

สำหรับวันนี้ ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Manufacturing and Services PMIs) ในเดือนกรกฎาคม ของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ในฝั่งญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ

นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะติดตามอย่างใกล้ชิด และเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้พอสมควรในช่วงนี้

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า การเคลื่อนไหวของเงินบาทอาจยังคงแกว่งตัวในกรอบ sideways ระหว่างเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน (โซน 36.40 บาทต่อดอลลาร์) กับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (โซน 36.10 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้างจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวนด์ขึ้นของราคาทองคำ ตราบใดที่ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวใกล้โซนแนวต้านระยะสั้น ทว่า เงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ชัดเจน จนกว่าจะเห็นการกลับมาอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจต้องอาศัยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ควรจะออกมาแย่กว่าคาด จนทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้งในปีนี้ หรือบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน (Risk-On)

นอกจากนี้ เรามองว่าเงินบาทยังเสี่ยงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่บ้างตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างน้ำมันดิบ และโฟลว์ธุรกรรมขายสินทรัพย์ไทยในช่วงนี้ ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินที่ยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ทำให้โดยรวมเงินบาทยังคงมีโซนแนวต้านแถว 36.35-36.40 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวรับของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 36.10 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น