"สารัชถ์ รัตนาวะดี" ซีอีโอ GULF แจงโบรกฯ การควบรวม GULF-INTUCH หนุนบริษัทใหม่ (NewCo) เชื่อจะเป็น NewCo แห่งแรกของไทยที่ดำเนินงานเต็มรูปแบบ ทั้งพลังงานสีเขียว เทคโนโลยีคลาวด์ และบริการดาต้าเซ็นเตอร์ จากความเชี่ยวชาญพลังงานของ GULF ความเชี่ยวชาญหลักของ ADVANC คือศูนย์ข้อมูล คาด NewCo จะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากปกติปีละ 2 พันล้านบาท กระแสเงินสดเพิ่มขึ้นจากปกติ 5-6 พันล้านบาท D/E อยู่ที่ 0.9 เท่า มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ขณะที่ยังจดทะเบียนในกลุ่มพลังงาน
ลั่น NewCo มีประสิทธิภาพเพิ่มทั้งด้านพลังงาน-ศูนย์ข้อมูล
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ได้จัดประชุมนักวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง GULF และ INTUCH ผ่านการจัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo)
ทั้งนี้ นายสารัชถ์ ระบุว่า ประสิทธิภาพการดำเนินงานของ NewCo จะเพิ่มขึ้น และมีโครงสร้างที่ชัดเจน NewCo จะเป็นบริษัทมหาชนแห่งแรกของไทยที่ดำเนินงานเต็มรูปแบบในระบบนิเวศของพลังงานสีเขียว บริการเทคโนโลยีคลาวด์ และผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ โดยจะได้รับประโยชน์จากความต้องการไฟฟ้าที่สูงขึ้นและแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วของดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากความเชี่ยวชาญหลักของ GULF คือธุรกิจพลังงาน และความเชี่ยวชาญหลักของ ADVANC คือศูนย์ข้อมูล สิ่งนี้ช่วยให้ใช้ประโยชน์จากความร่วมมือทางธุรกิจที่มีอยู่กับ Google และ Oracle ได้มากขึ้น
พลังงานยังคงเป็นธุรกิจหลักภายใต้ NewCo คิดเป็นราว 80% ของรายได้รวม ดังนั้นเชื่อว่าหุ้น NewCo จะถูกจัดอยู่ในหมวดพลังงาน (SETENERG) ขณะที่ INTUCH มีสภาพคล่องต่ำและมีความยืดหยุ่นทางธุรกิจน้อย ดังนั้นเชื่อว่าการควบรวมจะช่วยปลดล็อกธุรกิจของ INTUCH
คาด D/E ของ NewCo เหลือ 0.9 เท่า ความสามารถก่อหนี้เพิ่ม
นายสารัชถ์ ระบุว่า หลังการควบรวม NewCo จะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือประมาณ 0.9 เท่า ต่ำกว่าข้อกำหนดของธนาคารที่ 3.5 เท่า และเกณฑ์การควบรวมที่ 2.0 เท่า ซึ่งจะทำให้มีวงเงินกู้เพิ่มเติมประมาณ 1.5-2 แสนล้านบาท ความสามารถในการก่อหนี้จะเพิ่มขึ้นหลังการควบรวม
ณ สิ้นไตรมาส 1/67 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของ GULF และ INTUCH อยู่ที่ 1.7 เท่า และ 0.9 เท่า
นอกจากนี้ INTUCH จะจ่ายเงินปันผลให้ GULF เท่ากับ 4.5 บาทต่อหุ้น (รวม 6.80 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากเงินกู้ระยะสั้น) ซึ่ง GULF จะนำเงินปันผลที่ได้รับไปชำระคืนหนี้ ส่งผลให้งบดุลของ NewCo จะมั่นคงยิ่งขึ้น
กำไรเพิ่มขึ้นจากปกติปีละ 2 พันล้านบาท กระแสเงินสดเพิ่ม 5-6 พันล้านบาท
สำหรับกระแสเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นจากการถือหุ้นเพิ่มขึ้นใน ADVANC โดย NewCo จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน ADVANC จากประมาณ 19% (ถือหุ้นทางอ้อม) ก่อนการควบรวมเป็นประมาณ 40% หลังการควบรวมส่งผลให้ NewCo จะรับรู้ 1.กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากราว 5 พันล้านบาท/ปี เป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท/ปี และ 2.กำไรสุทธิที่สูงขึ้นประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี หลังจากรวมค่าตัดจำหน่ายคลื่นความถี่ 14 ปี ประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี
ผู้ถือหุ้น INTUCH ปัจจุบันยังคงมีสิทธิได้รับเงินปันผลจากการดำเนินงานปกติในปี 68 เนื่องจากกระบวนการจะใช้เวลาพอสมควร โดยเฉพาะข้อพิจารณาทางกฎหมาย เช่น ภาษีธุรกิจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย (กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกระทรวงพาณิชย์) ดังนั้น การควบรวมอาจเสร็จสิ้นในกลางปี 68 ซึ่งโครงสร้างและนโยบายจ่ายเงินปันผลจะถูกตัดสินใจโดยคณะกรรมการชุดใหม่
