ดีบีเอสฯ หั่นคาดการณ์กำไร EA ปีนี้-ปี 68 ลง 35 และ 45% พร้อมลดเป้าราคาหุ้นเหลือ 12 บาท หลังผู้บริหารถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ โดยคิดมูลค่าเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้า ห่วงเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในกลุ่มธุรกิจนี้ ด้าน ยูโอบีฯ ประเมินผลกระทบหลังจากนี้ มอง 4 ประเด็นสำคัญต้องจับตา คาดอาจส่งผลต่อทั้งตลาดหุ้นกู้ สถาบันการเงินได้ แต่เชื่อไม่แรงเหมือน STARK แนะเลี่ยงหุ้นในเครือ NEX BYD จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย
DBSV หั่นกำไรปีนี้ลง 35% ราคาเป้าหมาย เหลือ 12 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ จาก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกรณีที่ ก.ล.ต.กล่าวโทษ 2 ผู้บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ ( EA ) เมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) ที่ผ่านมา ถือว่ามีความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องทางการเงินความสามารถในการออกหุ้นกู้ และการเพิ่มทุนของ NEX รวมถึงความสามารถในการชําระคืนหนี้ของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทมีหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระใน ครึ่งปีหลัง 67 เท่ากับ 6.9 พันล้านบาท ซึ่งเดิมมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ตัวใหม่มาทดแทน
ดีบีเอสฯ ได้ปรับลดคาดการณ์กําไรสุทธิปี 67-68 ลง 35%/45% โดยนําธุรกิจที่เกี่ยวกับ EV ออกจากประมาณการในครึ่งปีหลัง 67 และปี 68 เนื่องจากเหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ EV เพราะเกิดวิกฤตความเชื่อมั่นทั้งจากผู้ถือหุ้น พันธมิตร ธุรกิจ ลูกค้ารถ EV ผู้ถือหุ้นกู้ สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเหล่านี้มีผลต่อต้นทุนการเงินบริษัทที่จะเพิ่มขึ้น ในการประเมินมูลค่าหุ้นจึงได้เพิ่ม WACC ขึ้น 2%
ปรับลดคำแนะนําเป็น Fully Valued (เดิมถือ) โดยลดราคาพื้นฐานเป็น 12 บาท (DCF) ซึ่งเป็นมูลค่าของธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัท (ไม่รวมมูลค่าธุรกิจ EV)
ยูโอบีฯ ประเมิน 4 ผลกระทบที่ต้องจับตา
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจาก ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหาร EA อาจสร้างความผันผวนรอบใหม่ และจะยุติการวิเคราะห์หุ้น EA โดยจากประเด็นดังกล่าว อาจสร้างความผันผวนและผลกระทบดังนี้
1) การขาดความเชื่อมั่นต่ออนาคตของบริษัท เนื่องจากการกล่าวโทษทําให้ผู้บริหารต้องพ้นจากตําแหน่ง อาจกระทบต่อราคาหุ้น
2) ความกังวลต่อสภาพคล่องจากการคืนหนี้ปีนี้ จากหุ้นกู้ 2 ชุด 5,500 ล้านบาท และสถาบัน การเงิน 3,200 ล้านบาท (ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดจากธุรกิจราว 5,000 ล้านบาท) ความ ไม่แน่นอนดังกล่าวอาจสร้างความผันผวนแก่ตลาดตราสารหนี้และหุ้นกู้
3) ความผันผวนของราคาหุ้นและตลาดหุ้นกู้ คาดส่งแรงกระเพื่อมต่อกองทุนที่มีสถานการณ์ลงทุน รวมไปถึงบริษัทหลักทรัพย์ที่มีการปล่อยมาร์จิ้นในหุ้น
4) ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอาจทําให้สถาบันการเงินและธนาคารมีการตั้งสํารองเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงต่อการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/67
อย่างไรก็ดี แม้ผลกระทบมีความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนของบริษัท อย่างไรก็ตามกรณีของ EA ถือได้ว่าต่างกับ STARK เนื่องจากเป็นความผิดส่วนบุคคล และจนถึงขณะนี้ไม่ได้มีเรื่องการสร้างรายได้เท็จ ดังนั้นคาด ตลท.จะไม่สั่งหยุดพักการซื้อขาย และ สถานการณ์ของบริษัทยังไม่เลวร้ายเท่ากรณี STARK
ดาโอแนะระมัดระวังลงทุน เลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้อง ทั้ง NEX และ BYD
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษกรรมการ ผู้บริหาร EA กับพวกรวม 3 ราย ต่อ DSI กรณีทุจริต เราประเมินว่าจะมีผลลบต่อราคาหุ้น EA โดยตรง เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงทั้ง 2 คนนั้นมีความสำคัญต่อการบริหาร นอกจากนี้ อาจกระทบไปถึงหุ้นในกลุ่ม EA ตัวอื่นๆ ด้วย เราแนะนำเลี่ยงหุ้น EA, NEX, BYD ไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย