บล.เอเซียพลัส เผย 9 หุ้นจากกลุ่มปันผลสูง รับเงินบาทแข็งค่า และดอกเบี้ยขาลง มีลุ้นรีบาวนด์ รับอานิสงส์ผลตอบแทนบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ลดลง หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็ง หลังคาดเฟดจะลดดอกเบี้ย ก.ย.นี้
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า หลังจากมีรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ เงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 3.0% YOY ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด 3.1%YOY และชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ 3.3%YOY และถึงเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ถือว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. ที่ชะลอตัวลงมากกว่าคาด
บวกกับตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยที่ FED นำไปพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 3 ครั้ง ในปีนี้ (เดิมคาด 1-2 ครั้ง) โดยครั้งแรกเป็นเดือน ก.ย. มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 84.6%
ภาวะดังกล่าวทำให้ยังเห็นภาพของเม็ดเงินมีแนวโน้มออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย และไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดย DOLLAR INDEX อ่อนค่าลงเหลือ 104.44 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นมา 85.4 เหรียญ
อีกทั้งตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดตัวในแดนบวก ส่วน BOND YIELD 10 ปีสหรัฐฯ ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.2% (-4.2%MTD หรือลดลง 27 BPS.) ส่งผลให้ส่วนต่าง BOND YIELD 10 ปี สหรัฐฯ-ไทย มี GAP ที่แคบลงมาอยู่ที่ 1.59% หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 36.37 บาท/USD
ประเมินหุ้น 3 กลุ่ม 9 บจ. รับอานิสงส์
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่ามีอยู่ 3 กลุ่ม หวังรีบาวนด์รับกระแส BOND YIELD สหรัฐฯ ปรับลง ดังนี้
1.หุ้นปันผลสูง เช่น SIRI, TTB, PTTEP
2.หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง GULF, BGRIM, GPSC
3.หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง JMT, MTC, SAWAD,TIDLOR
สรุป ความคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวลง ทำให้ยังเห็นภาพของเม็ดเงินมีแนวโน้มออกจากสินทรัพย์ปลอดภัย และไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น