xs
xsm
sm
md
lg

เอเซีย พลัส เชื่อมีลุ้น SET ดีดกลับขึ้นไปเหนือ 1,400 จุดใน Q3/67 หลังย่อสุดจน P/E ต่ำแค่ 14 เท่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.เอเซีย พลัส ประเมินดอกเบี้ยโลกเข้าสู่วัฏจักรขาลง แต่ดอกเบี้ยไทยยังไม่เปลี่ยน ปรับ MEYG ขึ้นยึดหลักอนุรักษนิยม ขณะที่การทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งมาตรการเสริมประสิทธิภาพตลาดหุ้นไทย รวมถึง ThaiESG ใหม่เข้ามาพยุงตลาดทดแทน FUNF FLOW กลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้แนะนำหุ้นพื้นฐาน ESG ดี ได้แรงหนุนจากภาครัฐ AOT, CK, GUNKUL และหุ้นปันผลเด่น SIRI, ADVANC, TTB, TU

ช่วง 1H67 ตลาดหุ้นไทยเผชิญศึกรอบด้าน เริ่มต้นด้วยตัวเลขเศรษฐกิจตกต่ำ GDP4Q66 1.7% ลดลงต่อ GDP1Q67 1.5% รวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียน 4Q66 1.76 แสนล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส และยังเผชิญสงครามตะวันออกกลางต่อเนื่อง ด้วยการเมืองไทยที่ร้อนแรง ส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติไหลออก 1.1 แสนล้านบาท กดดัน SET Index ปรับตัวลง -8% และใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ส่วนการเริ่มต้นครึ่งหลังของปีภาพเศรษฐกิจโลกที่ดูผ่อนคลายลง จากความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงเริ่มชัดเจน โดยเฉพาะช่วง 3Q67 เชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยน หนุนให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ SET Index จะดีขึ้นตามลำดับ จากความกังวลสถานการณ์การเมืองอาจมีแรงกดดันลดลง

ขณะที่เศรษฐกิจไทย BOTTOM OUT จากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐ (G) ภาคการการลงทุน (I) รวมถึงภาคการบริโภค (C) คาดเป็นตัวช่วยให้ GDP GROWTH ไทยทยอยเติบโตเป็นขั้นบันได และประเมินกำไรงวด 2Q67 ทรงตัวในระดับ สูงมีโอกาสอยู่ในกรอบ 2.3-2.7 แสนล้านบาท เติบโต YOY จากฐานที่ต่ำมีแรงหนุนเพิ่มจากค่าเงินบาทอ่อน และราคาน้ำมันยืนระดับสูงหนุน TRALING P/E ค่อยๆ ถูกลง

ส่วน FUND FLOW ต่างชาติไหลออกจากเอเชียใต้ และไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมากที่สุดกว่า 1.1 แสนล้านบาท อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมายังขายหุ้นไทยติดต่อกัน 26 วันทำการ เป็นการขายติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ พร้อมกับมีสัดส่วน Short Sell สูงถึง 13-17% ของมูลค่าซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม DOWNSIDE ของ SET INDEX จำกัดเช่นกัน หลังดัชนีย่อตัวลงมาจน VALUATION อยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก ณ SET INDEX ที่ 1,300 จุด มี P/E67F ที่ต่ำเพียง 14.2 เท่า (ต่ำกว่า -1SD), PBV 1.22 เท่า (ต่ำกว่า -2SD) และ DIVIDEND YIELD สูง ถึง 3.5% (สูงกว่า+1SD)

ส่วนแรงผลักดันดัชนีในช่วงไตรมาสที่ 3 ประกอบด้วยการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ รอรับเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG ใหม่เข้ามาหนุน และเริ่มเพิ่มเสถียรภาพจากตลาดหลักทรัพย์ อย่าง UPTICK คาดจะช่วยหนุนให้ดัชนีค่อยๆ ทยอยฟื้นตัวกลับขึ้นไปเหนือ 1400 จุดอีกครั้งได้ในไตรมาสนี้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นพื้นฐานดี ได้เม็ดเงิน THAIESG ใหม่ เข้ามาหนุนกับ 2 ธีมหลัก หุ้นได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ AOT, CK, GUNKUL และหุ้นปันผลระหว่างกาลสูง SIRI, ADVANC, TTB, TU


กำลังโหลดความคิดเห็น