หุ้นจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ พุ่งชนซิลลิ่ง รับข่าว บอร์ดไฟเขียว GMM Music ขาย 80 ล้านหุ้นหรือ 10% ให้ “เทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เมนต์ กรุ๊ป" และ “เทนเซ็นต์” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และ Platform จากจีน มูลค่ารวม 2,571 ล้านบาท และชำระด้วยเงินสดและหุ้นของ JOOX Thailand สัดส่วน 30% วางแผนต่อยอด Spin-Off เข้าตลาดหุ้นในอนาคต
หุ้นบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดตลาดภาคเช้าด้วยราคา 7.45 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 1.65 บาท หรือ 28.44% เมื่อเทียบจากราคาวันก่อนหน้า และปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุด (High) ที่ราคา 7.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 1.70 บาท คิดเป็น 29.31% เทียบจากราคาวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขึ้นไปชนระดับ Ceiling หรือ ระดับราคาสูงสุดของหุ้นในแต่ละวัน
น.ส.จรรย์จิรา พนิตพล ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน GRAMMY แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ว่าได้มีมติอนุมัติการการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) หรือ GMM Music ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จำนวนรวม 80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ GMM Music ในมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,570,827,000 บาท ให้ Black Serenade Investment Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งร่วมกันระหว่าง Tencent Music Entertainment Group และ Tencent Holdings Limited โดย Black Serenade เป็นบริษัทย่อยของ Tencent Music Entertainment Group (Black Serenade) หรือรวมเรียก “กลุ่มผู้ซื้อ”
โดยมูลค่าหุ้นสามัญของ GMM Music ที่จำหน่ายให้แก่กลุ่มผู้ซื้อดังกล่าว เมื่อเทียบเท่าเป็นสัดส่วน 100% มูลค่าเท่ากับ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มผู้ซื้อจะชำระค่าตอบแทนด้วยเงินสด และหุ้นสามัญจำนวน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ Joox Thailand (Hong Kong) Limited (Joox Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Tencent Music Entertainment Group (TME) ที่ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มฟังเพลงออนไลน์ JOOX เพื่อกลุ่มผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศไทย หรือกิจการ JOOX
ทั้งนี้ จากการที่กลุ่มผู้ซื้อเลือกชำระค่าตอบแทนบางส่วนด้วยหุ้นสามัญ 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ Joox Thailand ส่งผลให้ GMM Tomorrow Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% จะรับโอนหุ้นสามัญของ Joox Thailand จากกลุ่มผู้ซื้อซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัททั้งสิ้น 3 หุ้น หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ Joox Thailand มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 918,152,500 บาท คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2567
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีที่เทนเซ็นต์ และเทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี และ Platform จากประเทศจีน) จะเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในหุ้นของ GMM Music ด้วยสัดส่วนหุ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 2,570 ล้านบาท และจะสร้างมูลค่าบริษัทสูงถึง 25,700 ล้านบาท โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ การเสริมความแข็งแกร่งให้แผน Spin-Off ของบริษัทที่ต้องการสร้าง New Music Economy ของไทยให้เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีแผนความร่วมมือที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม โดยประเทศจีนเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่มีทั้งศักยภาพและโอกาสที่ใหญ่มากแน่นอนว่า การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้คือ “สะพานขนาดใหญ่” ของอุตสาหกรรมเพลง ที่จะทำการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ตลอดจนสร้างชื่อเสียงในระดับสากลและนำมาซึ่งความเจริญเติบโตทั้งในด้านผลประกอบการ และสร้างเสถียรภาพทางการเงินที่มั่นคงยิ่งขึ้นไปจนถึงยกระดับอุตสาหกรรมเพลงไทยในภาพรวม
นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ Tencent และ TME จะเข้ามาช่วยเร่งอัตราการเติบโตของ GMM Music อย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้พร้อมเปิดรับโอกาสทางธุรกิจในยุคใหม่ รวมถึงช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทสู่การเป็น The Next Asia’s Dragon ในตลาดโลก เราต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจ (Upscale Opportunity) ด้านการขยายธุรกิจเพลงและธุรกิจดิจิทัลที่เป็นแรงผลักดันสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมเพลงยุคใหม่ ตลอดจนการต่อยอดธุรกิจเพลงสู่ตลาดโลก ด้วยการนำพาศิลปินของ GMM Music เข้าสู่ตลาดเอเชีย และตลาดนานาชาติ
นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงในการร่วมลงทุนใน JOOX Thailand โดย GMM Grammy เพื่อต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีและสนับสนุนตลาดเพลงไทยให้เติบโตสอดคล้องกับตลาดเพลงโลกผ่าน Streaming Platform ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนอันสำคัญ โดยบริษัทร่วมทุนนี้จะผสานจุดแข็งทางด้านเทคโนโลยีจากความเชี่ยวชาญของ Tencent และ TME ที่จะมาพัฒนา Platform ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ฟังยุคใหม่มากยิ่งขึ้นร่วมกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหาร Content แบบครบวงจร จากความเชี่ยวชาญของ GMM Music ตลอดจนการทำงานกับค่ายเพลงพันธมิตรทุกค่ายอย่างไร้ข้อจำกัด ความร่วมมือดังกล่าวยังจะสร้างโอกาสการหารายได้ใหม่จากวงจรแฟนเพลง (Fandom Economy) ด้วยการสร้างกิจกรรมและช่องทางการมีส่วนร่วมกับศิลปิน แฟนด้อม ทั้งไทย จีนและต่างชาติเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้ GMM Music ในการเดินหน้าสู่แผนการเสนอขาย IPO ในอนาคตอันใกล้