วายแอลจีเผยทิศทางราคาทองคำ เชื่อระยะสั้นอาจย่อแต่ยังยืนได้แถว 40,000 บาทต่อบาททองคำ หรือ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เหตุปัจจัยสนับสนุนยังแน่น ทั้งจากทิศทางดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เป็นขาลงชัดเจนในปีนี้และอีก 2 ปีข้างหน้า และได้รับแรงสนับสนุนจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งนำไปสู่การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก 8 เดือนต่อเนื่อง เพื่อเป็นทุนสำรอง ชี้ในระยะสั้นมีความเป็นเป็นไปได้น้อยที่ราคาจะต่ำกว่า 40,000 บาท ยกเว้นปัจจัยจะเปลี่ยน เช่น การกลับไปขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเงินเฟ้อหรือตลาดแรงงานสหรัฐฯ แต่มีโอกาสเกิดได้น้อยในช่วง 3 ปีนี้
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่องจนราคาได้ถึงมาสูงกว่าเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้คือ 2,350 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ซึ่งวายแอลจีได้แนะนำนักลงทุนว่าหากราคาทองคำได้ปรับขึ้นมาถึงระดับ 2,350 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์แล้ว นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนเพราะระดับนี้อาจจะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมา อย่างไรก็ดี แรงขายทำกำไรอาจทำให้ทองคำย่อตัวลงได้ระดับหนึ่งแต่เชื่อว่าในระยะสั้นจะยังไม่ปรับลดลงไปต่ำกว่า 2,300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และสำหรับทองคำในประเทศมองว่าหากค่าเงินบาทไม่ได้แกว่งตัวผันผวนมากนัก ราคาทองคำในประเทศจะยืนบริเวณ 40,000 บาทต่อบาททองคำ
ทั้งนี้ การพักฐานของราคาทองคำรอบนี้มองว่าจะปรับตัวลดลงไม่มาก เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนหลักยังคงแข็งแกร่ง ทั้งอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มเข้าสู่ขาลงในปีนี้ โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% และลดลงต่อเนื่องในปีหน้า และปีถัดไป ทำให้นักลงทุนมองว่าทองคำจะได้รับปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง และจะกระทบให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง และความต้องการทองคำจากธนาคารกลางประเทศต่างๆ ที่มีอย่างต่อเนื่อง จากกระแส De-Dollarization ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าถือครองทองคำเพิ่มอีก 39 ตันในเดือน ม.ค. นำโดยตุรกีและจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อสุทธิทองคำเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่สนับสนุนความการทองคำด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี สำหรับคนที่ต้องการเข้าซื้อและมองว่าราคาทองคำจะหลุด 40,000 บาทต่อบาททองคำหรือไม่นั้น มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้หากสถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลง หากความแข็งแกร่งของปัจจัยสนับสนุนลดลงอาจทำให้ราคาทองคำเริ่มพักฐาน แต่ประเมินว่าราคาทองคำจะยังไม่หลุด 2,270 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือ 39,000 บาทต่อบาททองคำ อย่างไรก็ดี วายแอลจีมองว่าโอกาสที่จะได้เห็นราคาหลุด 40,000 บาทต่อบาททองคำ ในอนาคตอันใกล้นั้นยังคงมีน้อยกว่า เนื่องจากเทรนด์ทองคำยังเป็นขาขึ้น
"เครื่องมือในการเข้าลงทุนทองคำในช่วงนี้วายแอลจียังคงแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท สามารถซื้อขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ทโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน"