ประกาศห้ามนักลงทุนไทยซื้อหุ้นเพิ่มผ่านใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย หรือ NVDR มีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งที่จะปิดช่องทางการครอบงำหุ้นและการปั่นราคาหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่ เจ้ามือ และเจ้าของหุ้น
การซื้อขายหุ้น NVDR เกิดขึ้นเมื่อปี 2543 เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อย่างคล่องตัว โดยไม่ถูกจำกัดจากข้อกำหนดสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัทจดทะเบียน
เพราะก่อนที่จะมี NVDR นักลงทุนต่างชาติมีปัญหาการซื้อหุ้นบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติไม่เกิน 49% ของทุนจดทะเบียน
แต่มีบางบริษัทอาจกำหนดสัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติไม่เกิน 25% ของทุนจดทะเบียน
เมื่อสัดส่วนการถือครองหุ้นเต็มเพดานที่กำหนด ต่างชาติจะซื้อหุ้นเพิ่มไม่ได้ จะต้องรอซื้อจากกระดานต่างประเทศเมื่อมีผู้เสนอขายเท่านั้น
ตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดช่องทางให้ต่างชาติ ตั้ง NVDR ขึ้นมา โดยต่างชาติสามารถซื้อ NVDR โดยไม่มีข้อจำกัดสัดส่วนการถือครอง และได้รับสิทธิประโยชน์ทุกอย่างเหมือนการถือหุ้น เพียงแต่ไม่มีสิทธิโหวตเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นเท่านั้น
นอกจากนักลงทุนต่างชาติแล้ว นักลงทุนไทยสามารถซื้อ NVDR ได้ โดยระยะแรกมีนักเก็งกำไรส่วนหนึ่งเข้าไปซื้อขาย NVDR โดยหวังจะเก็งกำไรกับนักลงทุนต่างชาติ
แต่ระยะหลังมีนักลงทุนรายใหญ่ เจ้ามือหุ้นและเจ้าของหุ้นใช้ NVDR เป็นช่องทางการสร้างภาพลวงตา ครอบงำบริษัทจดทะเบียน และการปั่นหุ้น โดยเข้าไปซื้อ NVDR ซึ่งอาจเปิดบัญชีซื้อขายกับโบรกเกอร์ในต่างประเทศ
สวมรอยเป็นนักลงทุนต่างชาติซื้อเกินสัดส่วน 5% ของทุนจดทะเบียนและไม่ต้องรายงานการถือครอง ทำให้นักลงทุนในประเทศสำคัญผิด คิดว่าต่างชาติสนใจหุ้นบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง
ทั้งที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และผลประกอบการย่ำแย่ และแห่กันเข้าไปเก็งกำไรหุ้นที่มีสัดส่วนการถือ NVDR จำนวนมาก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า นักลงทุนรายใดถือหุ้นเกินสัดส่วนเกิน 5% หรือไม่ เมื่อซื้อ NVDR และตรวจสอบการปั่นหุ้นไม่ง่ายนักเมื่อแก๊งปั่นใช้ NVDR เป็นเครื่องมือ
ระหว่างปี 2563 ถึง 2566 จำนวนนักลงทุนไทยที่ซื้อขาย NVDR เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 3.2 เท่าตัว จากจำนวน 9,430 ราย เพิ่มเป็น 30,397 ราย
โดยมีจำนวนมากกว่านักลงทุนต่างชาติ 18,966 ราย (ตัวเลขเมื่อสิ้นเดือนกันยายนปี 2566)
ตัวเลขการเติบโตก้าวกระโดดของนักลงทุนไทยที่เล่น NVDR สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนรายใหญ่ เจ้ามือหุ้น และเจ้าของหุ้นใช้ NVDR เป็นเครื่องมือสร้างภาพลวงตา เพื่อปั่นหุ้น และหลบเลี่ยงกฎเกณฑ์และการตรวจสอบของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
การปั่นหุ้นบริษัท มอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE โดยมีนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE และพวกรวม 18 คน เป็นอีกชนวนเหตุที่ ก.ล.ต.ออกประกาศห้ามนักลงทุนไทยซื้อ NVDR เพิ่ม
เพราะก่อนตรวจพบพฤติกรรมปั่นปรากฏว่ามีการซื้อ NVDR หุ้น MORE จำนวนมาก ทำให้เกิดคำถามในช่วงนั้นว่า
ฝรั่งบ้าที่ไหนมาลงทุนหุ้น MORE ฝรั่งผีที่ไหนมาซื้อหุ้นขนาดตัวเล็กเน่าๆ อีกหลายสิบตัว และน่าจะเป็นฝรั่งหัวดำ หรือนอมีนี หรือตัวแทนแก๊งปั่นหุ้นที่ถูกสั่งไปเปิดบัญชีโบรกเกอร์ในต่างประเทศเพื่อแหกตาแมลงเม่ามากกว่า
นอกจากห้ามนักลงทุนไทยซื้อ NVDR เพิ่มแล้ว ก.ล.ต.ยังกำหนดให้โบรกเกอร์ไทยแจ้งลูกค้าที่เป็นโบรกเกอร์ต่างชาติไม่ให้รับคำสั่งซื้อ รับโอน หรือแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ที่มีผลทำให้ผู้ลงทุนไทยมี NVDR เพิ่มขึ้น และให้เปิดเผยข้อมูลลูกค้าในธุรกรรมเกี่ยวกับ NVDR เพื่อให้โบรกเกอร์ไทยรู้ตัวตนที่แท้จริงของลูกค้าและผู้รับประโยชน์ที่มีสัญชาติไทย
หลายปีแล้วที่ NVDR ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งมิจฉาชีพในตลาดหุ้น แต่ต่อจากนี้ต่างชาติเท่านั้นที่มีสิทธิซื้อขาย NVDR ฝรั่งหัวดำหมดสิทธิ และควรเป็นเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อ 23 ปีที่แล้ว
ขาใหญ่ แก๊งปั่น เจ้ามือและเจ้าของหุ้นหมดสิทธิใช้ NVDR ปั่นหุ้นอีกแล้ว และหุ้นปั่นนับร้อยตัวจะต้องตายซาก
ใครรู้ตัวว่าถือหุ้นปั่นไว้รีบโกย เทขายทิ้ง เผ่นก่อนเถอะโยม