xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภาลัย” กางแผน 5 ปีผู้นำ “บ้านติดโซลาร์เซลล์” ผนึก HUAWEI-ION ติดตั้ง 15,000 หลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม
”ศุภาลัย” จับมือ “หัวเว่ย” ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และไอออน เอนเนอร์ยี่ฯ ลุยติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” บ้านพร้อมขายทั่วประเทศ วางโรดแมป 5 ปี ติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” กลุ่มบ้านระดกับกลาง-บน ราคา 4-30 ล้านบาท 15,000 ยูนิต มุ่งสู่องค์กรธุรกิจยั่งยืน เผยเป้าหมายระยะกลางลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ในปี 73 แจงความคืบหน้าการติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ให้ลูกค้าไปแล้ว 30% จากเป้า 15,000 ยูนิต

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเจน y และเจน Z ที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี คือลูกค้าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีแชร์กว่า 60% และคาดว่าในจากนี้ไปอีก 3 หรือ 5 ปี จะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดอสังหาฯ ซึ่งมีจะมีแชร์ในตลาดกว่า 90% โดยกลุ่มลูกค้าเจน Y-Z คือ กลุ่มที่ให้ความใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ทิศทางดังกล่าวทำให้ ศุภาลัยตระหนักถึงผลกระทบ พร้อมวางกลยุทธ์ สร้างพันธกิจเพื่อผลักดันให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นในระยะยาว สู่การเป็นองค์กรที่มุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายระยะกลาง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 73

โดยศุภาลัยได้วางแผนผลักดันการใช้พลังงานสะอาด สำหรับที่อยู่อาศัยเป็น 1 ในแผนดำเนินงาน เพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุพันธกิจและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม อย่างเห็นผลในระดับมหภาค พร้อมหนุนให้ลูกบ้านศุภาลัยได้อยู่อาศัยในบ้านประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง พร้อมติดตั้ง “โซลาร์เซลล์” ตั้งเป้าเพื่อพิชิตยอด 15,000 หลัง ภายในปี 71 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการที่จะดำเนินการติดตั้งไปแล้วกว่า 30% ครอบคลุมกว่า 29 จังหวัด ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวสามารถคำนวณยอดผลิตกระแสไฟฟ้ารวมได้ 82,300 เมกะวัตต์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 49,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เสมือนการปลูกต้นไม้ทดแทน 3.2 ล้านต้น และลูกบ้านศุภาลัยสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20,000-30,000 บาทต่อปี และในอนาคต บริษัทมีแผนพัฒนาเพิ่มช่องทางการ Tracking ติดตามพร้อมควบคุมการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่าน Application : SABAI สามารถใช้งานได้อย่างครบวงจรมากขึ้น

“สำหรับกลุ่มบ้านแนวราบพร้อมอยู่ที่ ศุภาลัยจะดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ลูกค้านั้นจะเป็นบ้านระดับกลางบน ราคา 4-30 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อบ้านระดับดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และไม่มีปัญหาการขอสินเชื่อ เราจึงเลือกจะติดตั้งให้บ้านในตลาดนี้ก่อน ขณะที่กลุ่มบ้านระดับ 3 ล้านบาทลงไปยังเป็นกลุ่มที่แบงก์เข้มงวด และมียอดการปฏิเสธสินเชื่อสูง ดังนั้น ศูภาลัย จึงมองว่า ณ ปัจจุบันลูกค้าตลาดกลางล่างยังไม่มีความพร้อมในด้านกำลังซื้อ เพราะแน่นอนว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้นมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาแน่นอน ซึ่งจะทำให้การขอสินเชื่อทำได้ยากขึ้น” นายไตรเตชะกล่าว


นายกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีความเข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันที่ตระหนักและใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับคุณภาพชีวิตและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงพร้อมคิดค้นนวัตกรรมด้านการก่อสร้าง การออกแบบ รวมถึงการพัฒนาวัสดุก่อสร้างร่วมกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันเพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้าที่อยู่อาศัยของศุภาลัยในทุกประเภทเป็น “บ้านรักษ์โลก” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ผ่าน 5 แกนหลักของลูกค้า ดังนี้

1.นวัตกรรมเพื่อการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทได้ออกแคมเปญ “Supalai Self-Proved เชิญชวนพิสูจน์ผลลัพธ์ของนวัตกรรมการก่อสร้างอย่างรักษ์โลก ผ่าน Supalai Waste Meter มาตรวัดปริมาณขยะจากการก่อสร้างโดยให้น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดและนวัตกรรมด้านต่างๆ

2.การเป็นบ้านประหยัดพลังงาน มีการออกแบบวางผังตัวบ้าน/ตัวอาคารให้อยู่ในแนวเหนือใต้เพื่อหลบแดดและรับลม เน้นการออกแบบช่องเปิดประตูหน้าต่างหลายทิศทางเพื่อการระบายอากาศที่ดี และมีการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยระบายความร้อน จนได้รางวัลการันตีด้านการออกแบบประหยัดพลังงาน

3.การออกแบบเพื่อคนทุกวัย (Universal Design) โดยบริษัทคำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชันภายในบ้าน และการใช้งานต่างๆ เพื่อรองรับทุกเพศ ทุกวัยให้ได้รับความสะดวกสบาย ความปลอดภัยอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะฟังก์ชันเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ออกแบบห้องนอนในชั้นล่าง

4.การปฏิวัติใช้พลังงานสะอาด นอกจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และจุดติดตั้ง EV Charger ให้ลูกบ้านศุภาลัยกว่า 15,000 หลังทั่วประเทศแล้ว ศุภาลัยมีความมุ่งมั่น และจริงจังเพื่อพิชิตเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2030 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน

5.กิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าบริษัทพร้อมสนับสนุนนโยบายระดับประเทศด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการให้ความสำคัญและส่งเสริมงานด้านความยั่งยืนในมิติการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมในทุกภาคส่วนขององค์กร

(จากซ้าย) กิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล (ที่ 1) ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม (ที่ 2) โลแกน ยู (ที่ 3) พงศภัค นครศรี (ที่ 4 )
นายโลแกน ยู ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจดิจิทัลพาวเวอร์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ผู้ออกแบบโซลูชันอุปกรณ์แปลงผันกำลังไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน ตลอดจนระบบการจัดการและแสดงผลอัจฉริยะด้านดิจิทัลเพาเวอร์สำหรับทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือน หัวเว่ยจะดำเนินตามเป้าหมายเรื่องการส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนในประเทศไทยร่วมติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผ่านความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์รายสำคัญของเราในประเทศไทย โดยหัวเว่ยจะสนับสนุนองค์ความรู้ทางด้านวิชาการและเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยพัฒนาโมเดลธุรกิจและการออกแบบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ผ่านโปรแกรม Smart Design2.0 สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจของ บมจ.ศุภาลัย โดยร่วมกับไอออน เอเนอร์ยี่ ในการสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อโปรโมตโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทย

หัวเว่ยในฐานะที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานดิจิทัลในระดับโลก และมีบริการรวมถึงโซลูชันต่างๆ ที่ได้รับการนำไปประยุกต์ใช้ในตลาดมากกว่า 170 ประเทศ ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บพลังงาน การนำไปใช้งาน และความปลอดภัยในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมให้ทั้งภาคองค์กรและครัวเรือนร่วมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ภายใต้เป้าหมายในการสนับสนุนโครงการจำนวน 30,000 โครงการในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถลดก๊าซคาร์บอนได้ถึง 265,000 ตัน ตามเป้าหมายเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ และตามพันธกิจของหัวเว่ยที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย และร่วมสนับสนุนประเทศไทย และการปลดปล่อยขุมพลังแห่งดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ดีกว่า


นายพงศภัค นครศรี กรรมการบริหาร บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ION ผู้นำธุรกิจจัดหาโซลูชันพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา และติดตั้ง รวมถึงการดูแลบริการหลังการขายสำหรับภาคครัวเรือน อสังหาริมทรัพย์ และองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มการใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพื่อลุยภารกิจพิชิต Net Zero สู่อนาคตที่ยั่งยืน เทรนด์ติดตั้ง Solar Roof มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัย (Residential) ด้วยเหตุผลภาระค่าไฟฟ้าที่กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากความผันแปรของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและการซื้อไฟฟ้า ส่งผลให้ค่า FT มีการปรับตัวสูงขึ้น หากมีพฤติกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นจะทำให้ภาพรวมภาระค่าไฟฟ้าต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอีกด้วย การเลือกใช้งานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรร่วมมือกันผลักดันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วนของสังคมและสิ่งแวดล้อม


กำลังโหลดความคิดเห็น