ตามรายงานในสิ่งพิมพ์ท้องถิ่นที่อ้างถึงแหล่งข่าวที่ไมาสามารถเปิดเผยได้ ระบุถึงรายงานที่ผู้บริหาร Binance ซึ่งถูกควบคุมตัวโดยทางการไนจีเรีย ได้หลบหนีจากที่คุมขังโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม ซึ่งคาดว่าได้มีความพยายามในการติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเพื่อช่วยในการหลบหนีในระหว่างการละหมาด
จากการเปิดเผยของ cointelegraph อ้างถึงแหล่งข่าวท้องถิ่นของประเทศไนจีเรีย ซึ่งระบุว่ารัฐบาลไนจีเรียได้ดำเนินคดีอาญากับแพล็ตฟอร์มไบแนนซ์และผู้บริหารในหลายข้อหา โดยหนึ่งในข้อหาที่สร้างความเสียหายอย่างมากคือความพยายามในการหลีกเลี่ยงภาษี โดยตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าว ถูกยื่นฟ้องต่อศาลสูงของรัฐบาลกลางไนจีเรีย ในเมืองอาบูจาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นาดีม อันจาร์วัลลา ผู้บริหารไบแนนซ์ และไทกราน จัมบายัน เพื่อนร่วมงานของเขาถูกควบคุมตัวในเกสต์เฮาส์ในเมืองอาบูจา เมืองหลวงของไนจีเรีย เป็นเวลาหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า อันจาร์วัลลาได้หลบหนีออกจากการควบคุมตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม หลังจากที่เขาถูกนำตัวไปที่มัสยิดใกล้เคียงในระหว่างการละหมาด
โดยในรายงานล่าสุดระบุว่าอันจาร์วัลลา ไดเหลบหนีออกจากเมืองอาบูจา ด้วยสายการบินตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าเขาสามารถขึ้นเครื่องเที่ยวบินระหว่างประเทศได้อย่างไร เนื่องจากหนังสือเดินทางอังกฤษของเขาที่ใช้เดินทางเข้าสู่ไนจีเรีย ยังคงอยู่ในความดูแลของทางการไนจีเรีย ซึ่งแหล่งข่าวท้องถิ่นคาดการณ์ว่าเขาอาจติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยในการหลบหนีและใช้หนังสือเดินทางปลอม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ขยายผลเพิ่มเติมหลังจากที่เขาหลบหนีออกไปแล้วระบุว่า อันจาร์วัลลา ผู้บริหารไบแนนซ์ หลบหนีออกจากไนจีเรียโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมสัญชาติเคนยา และตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายามตรวจสอบว่า อันจาร์วัลลา จ่ายเงินซื้อหนังสือเดินทางปลอมกับทางกลุ่มอาชญากรใด เนื่องจากเขาไม่มีเอกสารการเดินทางอื่น ๆ ในขณะที่ถูกควบคุมตัว โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐหรือใครให้การช่วยเหลือหรือไม่ เนื่องจากในรายงานระบุว่า นาดีม อันจาร์วัลลา ผู้บริหารไบแนนซ์ และไทกราน จัมบายัน ได้รับสิทธิพิเศษหลายประการในระหว่างถูกควบคุมขังมากกว่าผู้ต้องขังทั่วไป รวมถึงการได้รับอนุญาติให้ใช้โทรศัพท์มือถือได้
ทางโฆษกของไบแนนซ์ กล่าวกับ Cointelegraph ว่า “เราได้รับทราบว่า นาดีม อันจาร์วัลลา ไม่ได้อยู่ในการดูแลของไนจีเรียอีกต่อไปแล้ว เป้าหมายหลักของเรายังคงอยู่ที่ความปลอดภัยของพนักงานของเรา และเรากำลังทำงานร่วมกับทางการไนจีเรียเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็ว”
ขณะเดียวกัน ศาลอนุญาตให้คณะกรรมการอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการเงิน (EFCC) คุมขังบุคคลทั้งสองได้เป็นเวลา 14 วัน โดยนอกจากนี้ยังได้รับคำสั่งเพิ่มเติมว่าไบแนนซ์ให้รัฐบาลไนจีเรียเข้าถึงข้อมูลและรายละเอียดของนักลงทุนชาวไนจีเรียโดยใช้แพลตฟอร์มของตน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไบแนนซ์ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล ศาลก็ขยายเวลาการกักขังเจ้าหน้าที่ออกไปอีก 14 วันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงหลักฐาน
ในทางกลับกัน เพื่อแสดงท่าทีแข็งกร้าวตอบโต้ต่อทางไบแนนซ์ รัฐบาลไนจีเรียได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดกับบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายและการฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับการแลกเปลี่ยนแพล็ตฟอร์มไบแนนซ์
ตามรายงานของรัฐบาลไนจีเรีย ออกประกาศว่าแพล็ตฟอร์ม ไบแนนซ์ถูกใช้เพื่อฟอกเงินเกือบ 21 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผู้ที่มีส่วนได้เสียในการทำธุรกรรมผิดกฏหมายคนเหล่านี้ ถูกควบคุมตัวหลังจากศาลผู้พิพากษาศาลอาญาในเมืองอาบูจาได้รับการร้องเรียนในการกระทำผิด