xs
xsm
sm
md
lg

BAM ส่งบอร์ดสรุปตั้ง JV AMC ไม่เกิน พ.ค.นี้ คงเป้ารับซื้อหนี้เสียหมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดการตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์ (JV AMC) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมของพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาร่วมทุน โดยประเด็นหลักๆเป็นราคาซื้อทรัพย์ ต้นทุนเงินทุน และผลตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยจะมีการเสนอบอร์ดพิจารณาในรอบแรกในการประชุมในช่วงต้นเดือน เม.ย.2567 นี้ ถัดไปเป็นประชุมนัดพิเศษช่วงปลายเดือน เม.ย. และต้นเดือน พ.ค. ตามลำดับ ดังนั้น ผลสรุปอย่างทางการจะเห็นชัดในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ เพื่อให้ทันกับเกณฑ์ที่กำหนดให้จัดตั้งภายในปีนี้ โดยเงินทุนเบื้องต้นในรอบแรกอยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท เพราะจะเป็นการทยอยซื้อหนี้เข้ามาเป็นเฟสๆ จึงไม่ต้องลงทุนเป็นก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ขณะที่กระแสเงินสดของ BAM ปัจจุบันมีเพียงพออยู่ที่ 15,000 ล้านบาท

"หากสามารถทำ JV AMC เป็นผลดีทั้งกับ BAM และสถาบันการเงิน โดย BAM เองจะมีทรัพย์ในการบริหารมากขึ้น และเราถือว่าอยู่ในวงการมานานจึงมีประสบการณ์มาก มีโอกาสจะมีเงินปันผลมากขึ้น ขณะที่สถาบันการเงินจะขายเอ็นพีแอลได้และมีรายได้จากการเรียกเก็บหนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ เราอยากจะช่วยลูกหนี้ให้มีทางออก ซึ่งในสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่สูงขนาดนี้ ทุกๆ ส่วนควรเข้ามาช่วยกัน"

สำหรับในปีนี้บริษัทยังคงแผนรับซื้อหนี้เสียตามเป้าหมายเดิม 9,000-10,000 ล้านบาท โดยมุ่งเป้าหมายไปยังหนี้เสียกลุ่มรายกลางและรายใหญ่มากขึ้น เพราะได้ราคาที่ดีกว่า แม้ว่าหนี้เสียที่วิ่งเข้าสู่ระบบในปีนี้จะเป็นหนี้เสียกลุ่มรายย่อยและรายเล็กเป็นหลักก็ตาม พร้อมตั้งเป้าขยายฐานสินทรัพย์ปีนี้เพิ่มเติมคิดเป็นเงินต้นคงค้างที่ระดับ 70,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 473,636 ล้านบาท และมีทรัพย์รอการขาย (NPAs) อยู่ที่ 69,807 ล้านบาท ขณะที่ผลเรียกเก็บหนี้ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ที่ทำได้สูงถึง 3,000ล้านบาท และบริษัทมีแผนออกหุ้นกู้วงเงิน 3,000 ล้านบาทภายในเดือน มี.ค.นี้

"ในปีนี้เราอยากเน้นหนี้รายใหญ่มากขึ้นเพราะบริหารจัดการได้ง่ายและคุ้มค่า ขณะเดียวกันเริ่มเห็นสถาบันการเงินเริ่มมีการขายออกมาบ้างเช่นกันหลังจากมาตรการผ่อนคลายต่างๆหมดอายุลง รวมถึงลูกหนี้รายย่อยมากๆ เริ่มมีออกมามากเช่นกัน ตรงนี้เราพิจารณาอยู่ เนื่องจากการบริหารหนี้รายย่อยมากๆ ต้องใช้ทรัพยากรบุคคลมาก หากนำเทคโนโลยีมาช่วยได้จะดี ทั้งนี้ เราคาดการณ์ปริมาณหนี้ที่ขายออกมาโดยรวมไม่น่าจะน้อยกว่าปีก่อนที่ 170,000 ล้านบาท แต่ในปีนี้เป็นปีของ Buyer น่าจะซื้อในราคาที่ดีได้"

พร้อมกันนั้น BAM เตรียมเปิดตัว Mobile AMC ซึ่งเป็นการสร้างระบบการให้บริการลูกค้าด้วยช่องทาง Online โดยจะมีระบบการชำระเงิน ดู และ E-TDR ทั้งระบบจองทรัพย์/ชำระเงิน และระบบตรวจสอบภาระหนี้/ชำระหนี้ เป็นต้น และในระยะต่อไปประมาณไตรมาส 4 ปีนี้จะสามารถดำเนินการในส่วนของ NPL และ NPA ได้ เช่น ทำแผนประนอมหนี้ออนไลน์ จองซื้อทรัพย์ ผ่อนชำระรายเดือน เป็นต้น ซึ่งตรงนี้จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนในการดูแลลูกหนี้รายย่อยซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกหนี้ส่วนใหญ่ของ BAM

"เรื่องหนี้ครัวเรือนเราเคยหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันกับธนาคารแห่งประเทศไทย เราบอกว่า เท่าที่เห็นคือ กำลังซื้อยังมี แต่กำลังผ่อนเริ่มหนืด มีทั้งลูกหนี้ขอผ่อนน้อยลงเพราะรายได้ลด หรือเพราะอยากเก็บเงินสำรอง แต่มีบ้างที่มาขอผ่อนเพิ่มเพราะหมดโควิดแล้วรายได้ฟื้น ซึ่งในเรื่องหนี้ครัวเรือนสูงขนาดนี้นั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ผมว่าไม่ช่วย ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือให้แบงก์รัฐนำร่องลดดอกเบี้ย เพื่อกดให้แบงก์พาณิชย์ลดตาม ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะญี่ปุ่นเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยหากประเทศอื่นๆืในภูมิภาคขึ้นตาม กนง.อาจจะไม่ลดก็ได้"

**จัดแคมเปญฉลอง 25 ปี**
พร้อมกันนั้น เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี BAM จัดแคมเปญขอบคุณลูกค้า สำหรับลูกหนี้ BAM ได้แก่ โครงการสุขใจได้บ้านคืน สำหรับลูกหนี้ภาระหนี้เงินต้นต่อรายไม่เกิน 25 ล้านบาท ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ขั้นต่ำ 80% ของราคาประเมิน เลือกชำระครั้งเดียวภายใน 90 วัน หรือผ่อนชำระไม่เกิน 25 ปี ได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน และโครงการ BAM ช่วยฟื้นคืนธุรกิจ สำหรับลูกหนี้ภาระหนี้เงินต้นต่อรายไม่เกิน 25 ล้านบาท ชำระหนี้ขั้นต่ำ 80% ของราคาประเมิน ชำระครั้งเดียวภายใน 90 วัน หรือผ่อนไม่เกิน 25 ปี ได้รับดอกเบี้ย 0% นาน 25 เดือน (เดือนที่ 26 เป็นต้นไป MRR BAM ต่อปี)

และสำหรับลูกค้าที่ซืัอ NPA มีกิจกรรม Lucky Draw มอบสิทธิลุ้นรางวัลให้ลูกค้าที่ซื้อทรัพย์สินรอการขายของ BAM เช่น บ้านเดี่ยว มูลค่ากว่า 2.8 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ที่ดินเปล่า มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พิเศษรถยนต์ไฟฟ้า Tesla มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท รวมมูลค่าของรางวัลทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น