โบรกเกอร์มอง "บวก" มาตรการของภาครัฐที่จะออกมากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจากนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง ระบุกระทรวงการคลังจะออก 7 มาตรการทางการเงินและภาษีกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ดังนี้
มาตรการด้านภาษี 5 มาตรการ 1) ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับการกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยไม่เกิน 1 แสนบาท 2) มาตรการลดภาษีที่ดิน 90% ให้โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาใน 3 ปี 3) ยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ที่ดิน 3 รูปแบบ ที่ดินทรัพย์สินส่วนกลาง (คอนโดฯ) ที่ดินสาธารณูปโภค (บ้านจัดสรร) ที่ดินสาธารณูปโภคเพื่อการอุตสาหกรรม 4) ขยายเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินออกไปอีก 2 เดือน 5) ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม 2% เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน)
และมาตรการการเงิน 2 มาตรการ 1) โครงการบ้านล้านหลัง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ให้วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% นาน 5 ปี 2) สินเชื่อแฮปปี้ไลฟ์ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยรายละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 2.98% เฉพาะปีแรกดอกเบี้ย 1.95%
บล.หยวนต้า มอง "บวก" ต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะมาตรการทางด้านภาษีที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน และมาตรการทางการเงินที่ช่วยบรรเทาความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อยอด Presales และยอดโอนของบรรดาผู้ประกอบการ
ประเมินว่า ผู้ประกอบการที่มีสินค้าพร้อมขายระดับกลาง-ล่าง (ราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท) จะได้รับปัจจัยบวกหนุนมากกว่ากลุ่ม เนื่องจากผู้ซื้อโดนกดดันจากทั้งอัตราดอกเบี้ย และกำลังซื้อที่ลดลง ได้แก่ SPALI, AP และ LPN
หยวนต้า "เลือก" SPALI (TP@23.40) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม Valuation ปัจจุบันต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มคาดผลประกอบการปี 2567 เติบโตโดดเด่น Backlog รอโอน และมีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่เริ่มโอน
ส่วน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีมุมมมองเป็นบวกมากขึ้นเล็กน้อยต่อการออกมาตรการดังกล่าว คาดจะช่วยสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดอสังหาฯ หลังจากปีที่ผ่านมากำลังซื้ออ่อนตัวลงหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการ LTV ตั้งแต่สิ้นปี 65 ประกอบกับผลกระทบแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงภาวะสุญญากาศทางการเมือง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ
เรามองว่ามาตรการภาษีจะส่งผลกระทบเชิงบวกทั้งในฝั่งผู้พัฒนา จากการชะลอและลดการจัดเก็บภาษีที่ดิน และฝั่งผู้ซื้อจากค่าลดหย่อนสูงสุด 1 แสนบาทสำหรับดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ขณะมองว่ามาตรการทางการเงินจะกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าของบริษัทจดทะเบียนในวงจำกัด เนื่องจากส่วนใหญ่มีสินค้าระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ในสัดส่วนที่น้อยมาก แต่เชื่อว่าจะเกิด sentiment เชิงบวกต่อกำลังซื้อของตลาดอสังหาฯ โดยรวม
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เราชอบหุ้นที่แนวโน้มกำไรฟื้นตัวโดดเด่นอย่าง SPALI (TP= 23.8) LH (TP=9.20) และหุ้นที่มีกำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง และเป็นผู้นำตลาดได้แก่ AP (TP=14.30) โดยหุ้นทั้ง 3 บริษัทมีจุดเด่นคือจ่ายปันผลสม่ำเสมอ และยังให้ผลตอบแทนเงินปันผลมากกว่า 4%