xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยซึม ไร้ปัจจัยบวกหนุน ปิดร่วง -3.25 จุด แนะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยในสัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดร่วง - 3.25 จุด นักวิเคราะห์เผยหุ้นไทยปรับตัวสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ขณะเดียวกันยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้าหนุน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูล PCE สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จึงทำให้ดัชนี SET INDEX เคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางขาลง ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวรับที่ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด แนะจับตา ตัวเลขเงินเฟ้อของไทย และตัวเลขแรงงานของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลสะท้อนต่อดัชนีการลงทุน

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 มี.ค. 2567 ปรับตัวลดลง -3.25 จุด หรือ -0.24% โดยปิดตลาดที่ 1,367.42 จุด มูลค่าซื้อขาย 49,556.62 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,375.22 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,364.31 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 216 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 153 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 289 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,034.23 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +539.31 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -831.28 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -738.17 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,034.33 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,719.91 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,739.71 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,461.95 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,236.01 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 206.00บาท เพิ่มขึ้น 5.00บาท หรือ 2.49%
2.SAPPE ปิดที่ 89.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 3.76%
3.AOT ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.15%
4.BH ปิดที่ 226.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 0.89%
5.THG ปิดที่ 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 4.02 %

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 68.00บาท ลดลง 3.25บาท หรือ 4.56%
2.AEONTS ปิดที่ 148.50บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 1.00%
3.OSP ปิดที่ 19.20บาท ลดลง 1.10 บาท หรือ 5.42%
4.HANA ปิดที่ 36.00บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 2.70%
5.CBG(XD) ปิดที่ 68.50บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.44%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,848.75 จุด ลดลง -4.64 จุด หรือ -0.25% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 833.85 จุด ลดลง -2.34 จุด หรือ -0.28% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 413.24 จุด ลดลง -1.66 จุด หรือ -0.40%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ คล้ายตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูล PCE สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะเดียวกันแม้จะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มสนามบิน โดยเฉพาะ AOT ตอบรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ประกาศแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค แต่ก็ไม่ได้หนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้นไปได้มากนัก

"มองแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดตลาดฯ ยังน่าจะแกว่งในกรอบแคบๆ ต่อไปเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา เช่น การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของไทย และตัวเลขแรงงานของสหรัฐ ให้แนวรับไว้ที่ 1,355 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด" นายวทัญ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น