หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกลับมาเคลื่อนไหวอย่างโดดเด่นในช่วงนี้ นำโดยหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งติดใน 10 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแรงเชียร์จากนักวิเคราะห์ โบรกเกอร์แทบทุกสำนัก
นโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว และการเปิดฟรีวีซ่าถาวรกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้เกิดความคาดหมายว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะทะลักเข้าประเทศไทย ตามเป้าหมายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ให้ไว้จำนวน 35 ล้านคนในปีนี้
เดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 2.7 ล้านคน และเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาอย่างล้นหลาม นักลงทุนจึงไล่ซื้อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวดักเก็งกำไร โดย AOT กลายเป็นเป้าช้อนซื้อของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ราคาหุ้น AOT เคยทรุดหนักเมื่อเดือนมกราคม จนสร้างจุดต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ 58 บาท โดยโบรกเกอร์แทบทุกสำนัก แนะให้เก็บในราคาที่หลุด 60 บาท
ภาวะตลาดหุ้นที่กระเตื้องขึ้น AOT จึงเริ่มฟื้น และปิดล่าสุดวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ 63.75 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากจุดต่ำสุดในรอบนี้
วิกฤตโควิคส่งผลกระทบต่อ AOT จนผลประกอบการขาดทุนหนักต่อเนื่อง ในปี 2564 และ 2565 แต่งวดบัญชีปี 2566 สิ้นสุดเดือนกันยายนที่ผ่านมา กลับมามีกำไรสุทธิ 8,790.87 ล้านบาท และกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้ง ในอัตราหุ้นละ 0.38 บาท และจะจ่ายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้
แม้ว่าค่าพี/อี เรโช หุ้น AOT จะสูงลิบลิ่ว 101 เท่า แต่ความคาดหวังผลประกอบการที่มาเติบโต เพราะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวที่ไหลกลับเข้าประเทศไทย ทำให้นักลงทุนกล้าสู้ราคากับ AOT
การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจเดียวที่มีแนวโน้มสดใส และรัฐบาลอัดฉีดแรงกระตุ้นเต็มที่ โดยหวังจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวแทบทั้งหมดจึงเริ่มฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ซึ่งดิ่งลงเหวลึก หรือหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS
โบรกเกอร์ 15 แห่ง ออกบทวิเคราะห์หุ้น AOT และแทบทุกสำนัก แนะนำให้ซื้อ โดยโบรกเกอร์ที่กำหนดราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู่ที่ 67 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 84 บาท แต่เป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 76 บาท
แรงเชียร์ AOT ดังมาตลอด แต่เสียงเชียร์เริ่มเห็นผล เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังหน้าตาในเดือนกุมภาพันธ์
นักลงทุนรายย่อยที่ร่วมขบวนใน AOT มีจำนวนทั้งสิ้นเกือบ 8 หมื่นราย และส่วนใหญ่ไม่ได้แบกต้นทุนราคาหุ้นแถว 60 บาท แต่อาจติดหุ้นราคาสูงกว่า 70 บาท และกัดฟันทนถือมาหลายปี
เพราะก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด AOT ทะยานระดับ 100 บาท ซึ่งในปีนี้ยังไม่มีโบรกเกอร์ใดตั้งเป้าหมายราคาเท่าจุดสูงสุดเดิมก่อนโควิด
แต่เชื่อว่าจุดต่ำสุดของ AOT ในรอบนี้น่าจะผ่านไปแล้วที่ระดับ 58 บาท โดยนักลงทุนคงไม่มีโอกาสได้ช้อนซื้ออีก เนื่องจากหุ้นกำลังโงหัวขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับประเทศไทยมากขึ้น
รอบนี้ AOT จะมีแรงส่งวิ่งไปได้ไกลขนาดไหน และในระยะสั้นจะถึงราคาเป้าหมายต่ำสุดซึ่งบางโบรกเกอร์ตั้งไว้ที่ 67 บาทหรือไม่ ผู้ถือหุ้นรายย่อยเกือบ 8 หมื่นชีวิตทั้งลุ้นทั้งเชียร์กันอยู่
