ดิทโต้ (ประเทศไทย) จับมือ 5 พันธมิตร NETBAY TEAMG SITEM ORIGIN และ SOMAPA ร่วมกัรถือหุ้นใน NETBAY เพื่อนำจุดเด่นและจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาร่วมมือกันเสริมซึ่งกันและกันเพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกัน ส่วน DITTO คาดโตเพิ่มจากเดิม 30%
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า กลุ่ม 6 พันธมิตรธุรกิจประกอบด้วย DITTO, NETBAY, TEAMG, SITEM, ORIGIN และ SOMAPA ซึ่งล้วนเป็นบริษัทชั้นนำอันดับต้นๆ ในแต่ละสาขาธุรกิจ โดยบริษัทเหล่านี้เข้ามาร่วมถือหุ้นใน NETBAY เพื่อนำจุดเด่นและจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาร่วมมือกันเสริมซึ่งกันและกันเพื่อต่อยอดธุรกิจร่วมกัน
ในส่วนของ DITTO ที่เข้าไปถือหุ้น 24.9% ใน NETBAY ได้เห็นศักยภาพบุคลากรที่มีโปรแกรมเมอร์กว่า 100 คน และมีความแข็งแกร่งในการทำ Digital Platform ของภาค e-Service ที่ทำระบบให้ภาคธุรกิจกับภาครัฐ (B2G) ระหว่างภาคธุรกิจกับภาคธุรกิจ (B2B) และระหว่างภาคเอกชนกับผู้บริโภค (B2C) ส่วน DITTO มีจุดแข็งในการสร้างระบบ Digital Platform ภายในองค์กรซึ่งสามารถนำมาเสริมกันได้
นอกจากนี้ DITTO ยังจะนำเอาโซลูชันของ NETBAY มาต่อยอดลูกค้าภาครัฐและเอกชนของ DITTO ได้พร้อมทั้งจะนำโปรดักต์ NETBAY บุกตลาดองค์กรท้องถิ่นคู่ไปกับโปรดักต์ของ DITTO หรือใช้ในโครงการ Smart Zoo หรือทำแพลตฟอร์มที่เกี่ยวกับ ESG ไม่เฉพาะ NETBAY เท่านั้น แต่จะร่วมมือกับทุกรายที่ร่วมเป็นพันธมิตร
“เป้าหมายรายได้ในส่วนของ NETBAY ฐานรายได้ที่มีอยู่คงไม่น้อยจากเดิม ส่วนของ DITTO คาดว่าจะโตเพิ่มจากเดิมราว 30%” นายฐกร กล่าว
นางกอบกาญจนา วีระพงษ์ประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY เปิดเผย ว่า NETBAY เป็นรายแรกๆ ที่พัฒนา Digital Platform ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ริเริ่ม business model Software as a Services (SaaS) รวมถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยง (Omni Channel Connectivity Gateway) เช่น e-Logistics Platform, e-Payment Platform, e-Business Service Platform (for FSI) และอื่นๆ อีกมาก ล่าสุดได้พัฒนา Intelligent Box (iBox) ซึ่งเป็น Digital Platform ที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่
การเป็นพันธมิตรกันระหว่าง DITTO กับ NETBAY โดย DITTO สามารถนำ iBox ที่มี Feature การลงลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Doc2Sign) นี้ไปใช้ในโครงการหรือให้บริการกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้ยังมี Feature e-Tax Invoice & e-Receipt, e-KYC และ e-Payment solution ต่างๆ ที่สามารถให้บริการ Digital Transformation แบบ Total Solutions ให้ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และรวดเร็ว
“การเป็นพันธมิตรทำงานร่วมกัน ซึ่งทุกบริษัทมี product และ service ในการสร้างธุรกิจของตัวเองอย่างเข้มแข็งและแข็งแรงได้ดีอยู่แล้ว แต่การมาร่วมมือกันทุกบริษัทจะสามารถนำ product ของพันธมิตรทุกๆ ทุกรายมาต่อยอดกัน และเราอาจจะต่อจิ๊กซอว์กันได้ภาพธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์ให้ทุกภาคส่วนได้เร็ว ได้กว้างขึ้น” นางกอบกาญจนา กล่าว
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า การเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงาน นับเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากสำหรับองค์กรในยุคดิจิทัล กระบวนการ Digitization และ Digitalization กลายเป็นเมกะเทรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่เส้นทางดังกล่าว ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะองค์กรชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี จึงได้ตัดสินใจเข้าลงทุนถือหุ้นและร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนา Digital Business Technology Platform ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Business Services) ชั้นนำของไทยในสัดส่วน 2.94%
“พอร์ตฟอลิโอของ NETBAY ครอบคลุมบริการ Software as a Service โดยเฉพาะกลุ่ม e-Document ให้แก่ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลอดจนผู้บริโภค มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 36-40% ในช่วง 3 ปีย้อนหลัง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน การเข้าลงทุนในครั้งนี้ช่วยเสริมโอกาสของบริษัทในการสร้างความร่วมมือด้าน Digitization และ Digitalization ต่อไปในอนาคต ตอบโจทย์การยกระดับการขยายธุรกิจอย่างครบวงจร” นายพีระพงศ์ กล่าว
นายณัฐพล มณีเนตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไซเท็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ SITEM กล่าวว่า ทางกลุ่มได้เดินหน้าทำธุรกิจเกี่ยวกับ DATA ครบวงจร โดยบริษัท Athentic Consulting มีทั้งโนว์ฮาว และความเชี่ยวชาญด้าน Data Strategy ซึ่งมีโอกาสทางธุรกิจค่อนข้างมาก จากแนวโน้มการนำข้อมูลมาใช้มากขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะช่วงหลังจากมีกฏหมายคุ้มครองส่วนบุคคล (PDPA)
“ดังนั้นกลุ่ม SITEM จะนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านข้อมูลมาเสริมสินค้าและบริการต่างๆ ของพันธมิตร สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเต็มศักยภาพส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ของชาติที่จะช่วยปลดล็อกความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศได้” นายณัฐพล กล่าว
นายศุภประเสริฐ วงศ์สุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โสมาภา อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ว่า สำหรับโสมาภาฯ มีประสบการณ์มีองค์ความรู้ด้าน Border Management หรือการจัดการการผ่านแดนและการเดินทางข้ามประเทศด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี โดยมีแพลตฟอร์ม Smart Border Solution ซึ่งเป็นโซลูชันที่ครบวงจรสำหรับการจัดการการผ่านแดน และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในหลายๆ ประเทศ
ในปัจจุบัน โสมาภาฯ เป็นผู้ให้บริการระบบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) และระบบประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร (PNR) ให้ประเทศไทยและประเทศ สปป.ลาว นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายตลาดด้าน Border Management ไปหลายภูมิภาคของโลกทั้งในอาเซียน กลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกและโอเชียเนีย ยุโรป แอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง ซึ่งกลุ่มพันธมิตรธุรกิจจะสามารถต่อยอดธุรกิจผ่านช่องทางของโสมาภาฯ ได้ ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงานออกบูทและบรรยายในระดับโลกโดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทเป็นประจำทุกปี ทำให้เราได้อิมเมจและคอนเนกชันที่จะส่งต่อพันธมิตรได้เช่นกัน นายศุภประเสริฐ กล่าว
“โสมาภาฯ ยังมีบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถมากมายทั้งทีมเทคนิค ทีมนักพัฒนาระบบ ทีมบริหารโครงการ ที่จะให้พันธมิตรมาร่วมแชร์ทรัพยากร และยังมีองค์ความรู้และความชำนาญด้าน global compliance และ global standard ที่เกี่ยวข้องซึ่งพันธมิตรสามารถที่จะแลกเปลี่ยนความรู้กันได้” นายศุภประเสริฐ กล่าว
ดร.ธีระวุฒิ เจือณรงค์ฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวว่า ทางบริษัทได้เข้าไปถือหุ้น NETBAY 6% โดย TEAMG มีแผนจะมุ่งไปสู่ Engineering Technology ความร่วมมือครั้งนี้ จะสามารถนำเทคโนโลยีต่างๆ ของพันธมิตรมาจัดการข้อมูลและองค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและขอบเขตในการให้บริการซึ่งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้บริษัทได้
“ขณะเดียวกัน TEAMG เป็นบริษัทหนึ่งในผู้นำที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม มีองค์ความรู้ด้านที่ปรึกษาที่หลากหลายและมีผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศในสาขาต่างๆ เป็นผู้ศึกษาออกแบบรวมถึงบริหารและควบคุมโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดไปยังเทคโนโลยีต่างๆ ของพันธมิตรได้เช่นเดียวกัน” ดร.ธีรวุฒิ กล่าว