ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (22 ธ.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) ขณะที่รายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือน ต.ค.ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แสดงให้เห็นว่าสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินได้หารือเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารเรื่องการเปลี่ยนจุดยืนในการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,257.95 จุด เพิ่มขึ้น 117.48 จุด หรือ +0.35% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,743.06 จุด เพิ่มขึ้น 121.93 จุด หรือ +0.73% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.24% ซึ่งพลิกฟื้นจากการปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาด
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 0.43% ส่วนดัชนี Kosdaq บวก 0.33%
เงินเฟ้อทั่วไปของญี่ปุ่นชะลอตัวสู่ 2.8% ในเดือน พ.ย. ซึ่งลดลงจาก 3.3% ในเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2565
เงินเฟ้อพื้นฐานญี่ปุ่น ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด อยู่ที่ 2.5% ในเดือน พ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์และต่ำกว่า 2.9% ในเดือน ต.ค.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) ขานรับมุมมองเชิงบวกที่ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2566 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,404.35 จุด เพิ่มขึ้น 322.35 จุด หรือ +0.87% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,746.75 จุด เพิ่มขึ้น 48.40 จุด หรือ +1.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,963.87 จุด เพิ่มขึ้น 185.92 จุด หรือ +1.26%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ของ GDP ประจำไตรมาส 3/2566 โดยระบุว่า GDP สหรัฐฯ ขยายตัว 4.9% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.1% ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 อยู่ที่ระดับ 4.9% และ 5.2% ตามลำดับ