ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (1 ธ.ค.) แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยผลสำรวจกิจกรรมการผลิตจากภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชีย เช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตจีนเดือน พ.ย.จากไฉซิน
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,537.44 จุด เพิ่มขึ้น 50.55 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,019.17 จุด ลดลง 23.71 จุด หรือ -0.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,027.35 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.08%
นักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน พ.ย.จากไฉซิน หลังจากเมื่อวานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่พ้นวิกฤตและอาจทำให้รัฐบาลจีนต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลข PMI จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพฤหัสบดี (30 พ.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลง ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,950.89 จุด เพิ่มขึ้น 520.47 จุด หรือ +1.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,567.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.22 จุด หรือ +0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,226.22 จุด ลดลง 32.27 จุด หรือ -0.23%