เอสซีจี เดคคอร์ เข้าซื้อขายวันแรกปิดเทรดที่ 9.80 บาท ลดลง 1.70 บาท หรือ 14.78% มูลค่าซื้อขาย 884.75 ล้านบาท ที่ปรึกษาการเงินเผย SCGD ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร SCGD แจงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นก้าวสำคัญของการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ SCGD เป็นบริษัทแกนหลักของเอสซีจีในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียน
บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก ราคาเปิดอยู่ที่ 10.10 บาท ลดลง 12.17% จากราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 11.50 บาท ราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 10.40 บาท ต่ำสุดที่ 9.85 บาท ปิดตลาดช่วงเช้าด้วยราคา 10.20 บาท ลดลง 1.30 บาท หรือ 11.30% มูลค่าซื้อขาย 654.81 ล้านบาท เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 9.80 บาท ลดลง 1.70 บาท หรือ 14.78% มูลค่าซื้อขาย 884.75 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 10.40 บาท ต่ำสุดที่ 9.80 บาท
สำหรับ SCGD เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 439.1 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน-13 ธันวาคม 2566 ในราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 11.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 5,049.65 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 18,975 ล้านบาท ซึ่งการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากกระบวนการสำรวจความต้องการของผู้ลงทุน (Book Building) ซึ่งเมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio:P/E) เท่ากับ 19.9 เท่า และมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
ทั้งนี้ SCGD มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 16,500 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นของ บมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) ด้วยวิธีแลกหุ้น IPO ของ SCGD ตามแผนการปรับโครงสร้าง อีกทั้ง SCGD เป็น flagship company ของกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย ประกอบธุรกิจด้วยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ดำเนินธุรกิจผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนังทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGD ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในปีนี้ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ (Market cap) ณ ราคา IPO ที่ 18,975 ล้านบาท ล่าสุดได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน COTTO ที่ได้รับการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ขณะที่การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมถึงการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ COTTO เพื่อแลกหุ้นมีจำนวนทั้งสิ้น 439,100,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.61 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน และผู้ถือหุ้นเดิมของ COTTO ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SCGD เผยว่าบริษัทฯ ได้นำหุ้น “SCGD” เข้าซื้อขายวันแรก (20 ธันวาคม 2566) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ SCGD เป็นบริษัทแกนหลักของเอสซีจีในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งฐานะทางการเงินเพื่อรองรับแผนงานขยายธุรกิจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและปรับโครงสร้างเงินทุน โดยเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากกว่า 40 ปี และแผนงานลงทุนขยายตลาดวัสดุตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น