หุ้นปิดร่วง 15.95 จุด ทำ Low สุดรอบ 3 ปี Underperform ภูมิภาคไร้ปัจจัยใหม่หนุนขณะที่ความเชื่อมั่นถดถอย โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง มองว่ามาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคาด ทำให้เงินที่เคยไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยเมื่อปี 65 เกือบ 2 แสนล้านบาทกลับข้างเป็นชะลอการเข้าลงทุน ตลอดจนขายสุทธิออกไป ถือเป็นการปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติในปีนี้
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ Underperform ตลาดภูมิภาคเอเชีย ในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน และความเชื่อมั่นนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำมาก ส่งผลให้ดัชนีร่วงลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,370 จุด ลงมาทำระดับต่ำสุดใหม่ (New Low) ในรอบ 3 ปี จาก Low เดิม 1,366 จุด
ปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง มองว่ามาจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคาด ทำให้เงินที่เคยไหลเข้ามาซื้อสุทธิหุ้นไทยเมื่อปี 65 เกือบ 2 แสนล้านบาทกลับข้างเป็นชะลอการเข้าลงทุน ตลอดจนขายสุทธิออกไป ถือเป็นการปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติในปีนี้
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,357.97 จุด ลดลง 15.95 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.16% มูลค่าซื้อขาย 37,984.99 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดยังรอติตดามปัจจัยสำคัญ คือ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ซึ่งเก็งว่าเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% รวมถึงติดตามมุมมอง Dot Plot ว่าจะเห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยลงอย่างไร จากเดิมเฟดให้ Dot Plot สิ้นปี 67 อยู่ที่ 5.125% โดยเราคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลด Dot Plot ในปี 67 ลงจากเดิมราว 25-50bps เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐชะลอ ลง ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม หลังจากตลาดหุ้นไทยลงไปมากแล้ว จึงเชื่อว่าจากนี้น่าจะปรับตัวขึ้นมาได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเหลือขายสุทธิหุ้นไทยได้อีกไม่มาก โดยวันพรุ่งนี้ตลาดฯ มีโอกาสรีบาวด์ หากเฟดปรับลด Dot Plot ปี 67 ลงตามคาด และยังคาดหวังแรงหนุนจากการเข้าซื้อของกองทุน TESG พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,345-1,340 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด