สัปดาห์นี้หุ้นที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี กลับสู่ความคึกคักอีกครั้ง ราคาพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง ท่ามกลางเสียงเตือนของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนัก สะกิดนักลงทุนให้ระมัดระวังการเก็งกำไร
หุ้นกลุ่มคริปโตเคอร์เรนซี เคยทำให้นักลงทุนสะบักสะบอมมาแล้ว โดยการโหนกระแสคริปโตฯ ในยุคเฟื่องฟูของบิตคอยน์ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งประกาศจัดตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์
นักเก็งกำไรตามแห่เข้าไปลุยหุ้นกลุ่มคริปโตฯ จนราคาพุ่งยกแผง แต่กระแสหุ้นคริปโตฯ เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะดับสูญไป ขณะที่ราคาหุ้นคริปโตฯ ร่วงหล่น และอยู่ในสภาพตายซากมายาวนาน
แต่หลังจากบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น จนยืนเหนือ 40,000 ดอลลาร์ จึงเริ่มมีการจุดพลุหุ้นกลุ่มคริปโตฯ รอบใหม่ ราคาด้งขึ้นยกแผง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS
หุ้นบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA หุ้น บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG หุ้น บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP และหุ้น บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK
สิ่งที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์เตือนนักลงทุน เลี่ยงหุ้นกลุ่มคริปโตฯ นอกจากความเสี่ยงของราคาที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงแล้ว ยังไม่อาจประเมินถึงแนวโน้มผลประกอบการได้ แม้ราคาบิตคอยน์จะมาแรงก็ตาม
มุมมองนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มคริปโตฯ ในรอบก่อน โดยไม่เห็นถึงความคุ้มของการลงทุนในธุรกิจคริปโตฯ อาจประเมินความเหมาะสมของราคาหุ้นได้
นอกจากนั้น ยังมีหุ้นอีกหลายกลุ่มที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และราคาปรับตัวลงมาลึก ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำกว่า
การลงทุนในธุรกิจคริปโตณ รวมทั้งการแห่ประกาศตั้งเหมืองขุดบิตคอยน์ ถูกมองว่า เป็นเพียงการสร้างจุดขาย ปล่อยข่าวดี เพื่อกระตุ้นราคาหุ้น มากกว่าการหวังผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวของบริษัทจดทะเบียน
ในช่วงที่บิตคอยน์ขึ้นไปยืนเหนือ 60,000 ดอลลาร์ ช่วงปลายปี 64 มีการเก็งกำไรบิตคอยน์กันคึกคักทั่วโลก อาจกระตุ้นห้นักลงทุนเก็งกำไรหุ้นคริปโตฯ แต่เมื่อบิตคอยน์ล่มสลาย นักลงทุนทั้งโลกเจ๊งตามๆ กัน นักลงทุนจึงหนีตายจากหุ้นคริปโตฯ
บิตคอยน์กลับมาใหม่แล้ว ล่าสุดราคาทะยานผ่าน 43,000 ดอลลาร์ และคาดหมายว่าปีหน้าอาจขึ้นไปแตะที่ระดับ 50,000 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า แนวโน้มบิตคอยน์ยังไม่ไปต่อ
แต่หุ้นคริปโตฯ จะไปไดไกลขนาดไหน เพราะบางตัวปรับขึ้นหลายสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เพียงช่วงเวลาไม่กี่วัน แม้ผู้บริหารบริษัทจะมีคดีฟ้องร้องทางแพ่งเกี่ยวกับคริปโตฯ รวมทั้งการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญาด้วยก็ตาม
นักลงทุนอาจจะหงอยกันนาน เพราะไม่มีบรรยากาศเก็งกำไรหุ้นรายตัว หุนตัวเล็กอยู่ในสภาพซังกะตายกันหมด เมื่อมีแรงกระตุ้นเก็งกำไรหุ้นกลุ่มคริปโตณ จึงแห่กันเข้าไปลุยแลกหมัดวัดดวง ถือว่าได้ยืดเส้นยืดสายกันบ้าง
ใครที่เข้าไปแล้วต้องหาจังหวะออกมา มีกำไรพอหอมปากหอมคอต้องชิงขาย
เพราะเก็งกำไรหุ้นคริปโตฯ รอบใหม่คงเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ ถ้าไม่เร็วพอ ถ้าชิงจังหวะขายไม่ทัน อาจเจ็บช้ำกับหุ้นคริปโตฯ ซ้ำสอง